เครื่องบินลงฉุกเฉินหลังผู้โดยสารแก้วหูแตกและมีเลือดกำเดาไหล
เดลต้าแอร์ไลน์ระบุในแถลงการณ์ว่า เครื่องบินโบอิ้ง 737-900 ของสายการบินเดลต้าแอร์ไลน์ เที่ยวบิน 1203 รองรับผู้โดยสารได้ 140 คน และเดิมมีกำหนดบินจากซอลต์เลกซิตี้ รัฐยูทาห์ ไปยังพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน ในวันที่ 15 เมื่อเครื่องบินบินได้สูงถึง 10,000 ฟุต (ประมาณ 3,048 เมตร) กัปตันพบว่ามีปัญหากับระบบแรงดันของเครื่องบินทำให้ห้องโดยสารไม่สามารถรับแรงดันได้ตามปกติ ส่งผลให้ผู้โดยสารจำนวนมากต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดหูอย่างรุนแรง แก้วหูแตก เลือดกำเดาไหล และอาการอื่นๆ ในท้ายที่สุด กัปตันจึงตัดสินใจทำการบินกลับเมืองซอลท์เลคอย่างฉุกเฉิน
ในเรื่องนี้กัปตันที่เกษียณอายุแล้วของเดลต้าแอร์ไลน์ อธิบายว่าการเพิ่มแรงดันอากาศในห้องโดยสารเป็นการดำเนินการอัตโนมัติของเครื่องบิน กัปตันมีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบเพื่อดูว่าเครื่องทำงานได้ตามปกติหรือไม่ แต่โดยทั่วไปแล้วกัปตันจะพยายามแก้ไขปัญหาความกดดันในอากาศให้ดีที่สุด สถานการณ์นี้มักจะไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของกัปตันและยังเตือนว่าหากผู้โดยสารประสบกับสถานการณ์ที่ผิดปกติเช่นนี้ สามารถเคี้ยวหมากฝรั่ง หรือบีบจมูกและเป่าลมออกทางหู จะช่วยได้
เดลต้าแอร์ไลน์ขอโทษผ่านแถลงการณ์ และแจ้งว่า หลังจากเครื่องบินลำดังกล่าวบินกลับมาที่สนามบินแล้ว มีผู้โดยสาร 10 รายที่ต้องได้รับการตรวจรักษา ส่วนผู้โดยสารคนอื่นๆ ได้เปลี่ยนไปขึ้นเครื่องบินอีกลำแทน เดลต้าแอร์ไลน์ยังระบุด้วยว่าช่างเทคนิคได้แก้ไขปัญหาแรงดันแล้ว และเครื่องบินจะกลับมาให้บริการได้ในวันที่ 16 ซึ่งเรื่องนี้สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) จะดำเนินการสอบสวนต่อไป