อัพเดทสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ 13 จังหวัด เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
17 ก.ย. 67 เวลา 15.00 น. ปภ. รายงานมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย สุโขทัย พิษณุโลก หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา พังงา ชุมพร ภูเก็ต และสตูล รวม 45 อำเภอ 192 ตำบล 934 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 27,831 ครัวเรือน เร่งส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยดูแลให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่าในระหว่างวันที่ 16 ส.ค. – 17 ก.ย. 67 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 30 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ระยอง ชุมพร ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง สตูล รวม 150 อำเภอ 672 ตำบล 3,525 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 139,803 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 45 ราย และได้รับบาดเจ็บรวม 24 คน ซึ่งปัจจุบัน ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 13 จังหวัด รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 45 อำเภอ 192 ตำบล 934 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 27,831 ครัวเรือน รายละเอียด ดังนี้
1) เชียงราย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สาย และ อ.เมืองฯ รวม 7 ตำบล 72 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,968 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 12 ราย ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ระดับน้ำลดลง
2) สุโขทัย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ อ.กงไกรลาศ รวม 3 ตำบล 20 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 361 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
3) พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ และอ.เมืองฯ รวม 7 ตำบล 15 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 576 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
4) หนองคาย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.สังคม อ.ศรีเชียงใหม่ อ.ท่าบ่อ อ.เมืองฯ และ อ.รัตนวาปี รวม 18 ตำบล 77 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,885 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
5) อุดรธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.นายูง อ.น้ำโสม อ.หนองหาน อ.เมืองฯ อ.โนนสะอาด รวม 12ตำบล 34 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 42 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
6) บึงกาฬ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.โซ่พิสัย อ.บึงโขงหลง อ.เซกา อ.พรเจริญ อ.ปากคาด อ.เมืองฯ อ. บุ่งคล้า และ อ.ศรีวิไล รวม 35 ตำบล 202 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
7) ปราจีนบุรี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.กบินทร์บุรี อ.ศรีมหาโพธิ์ และ อ.ประจันตคาม รวม 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
8. อ่างทอง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ อ.วิเศษชัยชาญ รวม 1 ตำบล 3 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 16 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
9) พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.บางปะหัน อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน และ อ.บางไทร รวม 78 ตำบล 394 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,621 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
10) พังงา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.คุระบุรี อ.ตะกั่วทุ่ง และ อ.เมืองฯ รวม 11 ตำบล 18 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 108 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
11) ชุมพร เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ อ.พะโต๊ะ รวม 2 ตำบล 18 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 125 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
12) ภูเก็ต เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ และ อ.ถลาง รวม 4 ตำบล 20 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 445 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
13) สตูล เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ควนโดน อ.เมืองฯ อ.ท่าแพ และ อ.มะนัง รวม 9 ตำบล 45 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,351 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA รถบรรทุกเล็ก รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ เสื้อชูชีพ จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ พื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในภาคอื่นที่ไม่มีสถานการณ์ภัย เข้าร่วมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ภัยขึ้น