เตือนภัย สาวเล่าเรื่องราวโจรซ้อมหวังชิงทรัพย์ เกือบเอาชีวิตไม่รอด!
วันที่ 17 กันยายน 2567 สาวรายหนึ่ง ใช้เฟสบุคส่วนตัว โพสต์ข้อความเตือนภัย หลังถูกคนร้ายสวมโม่ง บุกจะปล้นกลางป่าอ้อย เกือบเอาชีวิตไม่รอด
บรรยายเรื่องราวดังนี้
วันที่ 14 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 17.30 น. ได้ขับมอเตอร์ไชค์กลับบ้านตามเวลาปกติ ใช้เส้นทางเดิมในทุกๆวัน ถนนบ้านไร่-หนองตม-ป่าอู ขณะขับตามเส้นทางได้พยายามมองกระจกมองข้างตลอดว่ามีใครขี่ตามมาหรือไม่ ไม่ได้ใช้โทรศัพท์เพราะเส้นทางเปลี่ยว มีแต่ป่าอ้อย ป่ามัน และแปลงข้าวโพด ตลอดทางมั่นใจได้เลยว่าไม่มีคนขี่รถตามมา จนเลี้ยวเข้าทางคอนกรีต อีกประมาณ 3 กม.จะถึงบ้านของตาและแม่กับลูกตนที่รออยู่ตรงนั้น
ซึ่งพอเลี้ยวเข้ามาได้ประมาณ 100 เมตร มองกระจกหลังคือเห็นมีรถมอเตอร์ไซค์ตามมา 1 คัน ก่อนนี้ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ เลยไม่คิดอะไร และยังคงขับรถมาเรื่อย ๆ จนมั่นใจว่าจะเกิดอันตรายจะวนกลับก็ไม่ได้ เลยตัดสินใจจะขี่รถหนี แต่ไม่ทัน
เหตุการณ์เกิดขึ้นแบบชุลมุน เพราะคนร้ายขี่รถมาตีคู่แล้วพยายามกระชากเสื้อ หญิงสาวพยายามคว้าโทรศัพท์ เพื่อโทรหาที่บ้าน พร้อมกระโดดลงมากรถ แต่วิ่งหนีไม่ทัน จากนั้นมันคว้าเอาโทรศัพท์ ออกจากมือหญิงสาวไป พร้อมกับเอามือปิดปาก และพยายามดึงสายบัตรพนักงาน พยายามต่อยท้อง ต่อสู้กันประมาณ 5-8 นาที จนหญิงสาวหมดแรงเพราะมันพยายามเอามือมาปิดปาก และบอกว่า อย่าร้อง!
หญิงสาวหายใจไม่ออกจนตัวอ่อนลงไปกองอยู่ที่พื่้น ยอมรับว่าสิ้นหวังมากหน้าแม่+ลูกลอยมาทุกวินาที ถ้าไม่มีตนแล้วเขาจะอยู่กันยังไง สรุปคือต้องตั้งสติ รวบรวมสติมี่มี ฮึบสู้โดย ใช้คำขอร้องและยกมือไหว้ ว่า "พี่ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวจริงๆ หนูต้องการอะไรเราคุยกันดีๆได้ไหม พี่เจ็บไปหมดแล้ว หน้าก็ถลอก เนื้อตัวเจ็บไปหมด อย่าทำอะไรพี่เลยนะ พี่มีแม่และลูกที่ต้องดูแล พี่เป็นหัวหน้าครอบครัว พี่ขอร้องอย่าทำพี่นะ"
คือมันนิ่งและบอกความต้องการ คือ "ผมต้องการเงิน ผมไม่มีเงิน " ตนจึงถามว่าถ้าไม่มีเงินแล้วทำไมทำแบบนี้ มาทำร้ายพี่ทำไม
"ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมขอโทษ" พร้อมกับยกมือไหว้ตน ผมพยายามหางานทำแล้ว แต่ไม่มีใครรับเข้าทำงาน พี่เจ็บเยอะไหม ผมขอโทษ ยกมือไหว้ตนอีกครั้ง
ตนจึงดึงสติพยายามประครองตัวเองลุกขึ้นพร้อมถามว่า "หนูจะเอาเงินใช่ไหม งั้นพี่ขอโทรศัพท์พี่คืนได้ไหม พี่ต้องทำงาน แล้วพี่โทรขอเงินแม่มาให้ หนูจะเอาเท่าไหร่ " มันยื่นโทรศัพท์คืนให้ตน พร้อมหันหลังกลับไปที่รถ
ตนได้โทรศัพท์คืน พยายามติดต่อที่บ้านแต่ไม่มีคนรับสาย ใช้วินาทีที่หันหลังแอบถ่ายรูปไว้ ด้วยความที่กลัวแต่คุมสติ เลยควักเงินที่มีให้ไป พอมาถึงรถคนร้ายก็ได้ยกรถมอเตอร์ไชค์ขึ้น และเอาเสื้อปิดแผ่นป้ายทะเบียน ยื่นเงินให้ คนร้ายยกมือไหว้ขอบคุณตน และได้ขี่มอเตอร์ไชด์บิดออกไป จากทางที่เข้ามา ตนเห็นว่าไปแล้วจึงโทรหาเพื่อนคาสายไว้ เพราะกลัววกกลับมาอีก รีบกระโดดขึ้นรถมอเตอร์ไชค์เพื่อให้ถึงบ้านไวที่สุด
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 เผย คนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ รู้จักทางเข้าออกหมู่บ้านเป็นอย่างดี ใช้จังหวะก่อเหตุ เนื่องจากในพื้นที่ของตนเองนี้มียาเสพติดเยอะมาก ราคาถูก จึงมีการจี้ปล้น
อยากวอนให้เจ้าหน้าที่ช่วยออกตรวจให้เข้มด้วย เพราะทนพฤติกรรมของยาเสพติดไม่ไหว ทำให้พวกที่เสพยา สามารถมาก่อเหตุชิงทรัพย์เพื่อนำเงินไปซื้อยาเสพติด
ซึ่งเหตุการณ์ข้างต้นนี้ อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไร่ และชุดสืบสวน ลงพื้นที่ไล่ล่าชายดังกล่าวเพื่อมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
อย่างไรแล้วเหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นอุทาหรณ์ แก่ผู้หญิงที่เดินทางคนเดียว ให้ตะหนักและระแวดระวังตัว เหตุการณ์จะเกิดขึ้นแบบไม่ทันได้ตั้งตัวได้เลย ขอให้เดินทางโดยมีสติ และไหวพริบเสมอเพราะคุณอาจไม่โชคดีเหมือนหญิงสาวรายนี้