หนองคายเกิดการแตก 4 ครั้ง! เร่งดำเนินการซ่อมแซมเพื่อปกป้องพื้นที่ในเมืองหลัก

หนองคายเกิดการแตก 4 ครั้ง! เร่งดำเนินการซ่อมแซมเพื่อปกป้องพื้นที่ในเมืองหลัก

น้ำโขงยังคงมีระดับสูงขึ้นอย่างช้า ๆ ส่งผลให้บังเกอร์กระสอบทรายของจังหวัดหนองคายเกิดการแตกถึง 4 ครั้งตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกำลังเร่งซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงเพื่อปกป้องพื้นที่ในตัวเมืองชั้นใน

ระดับน้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดหนองคายยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจากการวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ เมื่อเวลา 22.30 น. ระดับน้ำอยู่ที่ 13.77 เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับเฉลี่ยตลิ่ง 1.57 เมตร โดยมีแนวโน้มที่จะทรงตัว หากไม่มีฝนตกในพื้นที่ตอนเหนือ คาดว่าระดับน้ำจะไม่สูงขึ้นมากนักในอนาคตอันใกล้นี้

เนื่องจากระดับน้ำโขงที่เพิ่มสูงขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. หลังจากที่นายอุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางกลับไม่นาน เกิดเหตุการณ์น้ำโขงดันกระสอบทรายที่ใช้สร้างบังเกอร์เพื่อป้องกันน้ำโขงไม่ให้เข้ามาในพื้นที่แตกที่บริเวณชุมชนวัดธาตุ ทำให้ต้องมีการระดมเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงให้มาช่วยกันซ่อมแซม โดยพล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่มีภารกิจมาร่วมซ่อมบังเกอร์ที่เสียหาย และได้ทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในการซ่อมแซมด้วย

เนื่องจากกระแสน้ำมีความแรงมาก ผู้ที่เข้ามาช่วยซ่อมจึงต้องแบ่งกำลังการทำงานออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกทำหน้าที่เกาะกันเพื่อกั้นความแรงของกระแสน้ำที่เชี่ยว ส่วนอีกกลุ่มเร่งวางกระสอบทรายเพื่อซ่อมแซมจุดที่เสียหาย จนในที่สุดก็สามารถซ่อมแซมจุดที่แตกได้สำเร็จ ต่อมาไม่นาน กระสอบทรายที่ทำเป็นบังเกอร์กั้นน้ำโขงก็เกิดการแตกอีกครั้งในจุดที่ไม่ห่างจากจุดแรกมากนัก โดยครั้งนี้เกิดการแตกที่ใกล้เคียงกันถึง 2 จุด แต่ยังไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังอยู่ ทำให้สามารถเข้าซ่อมแซมได้ทันเวลา

ในเวลาประมาณ 19.00 น. กระสอบทรายที่ใช้สร้างบังเกอร์กั้นน้ำโขงได้เกิดการแตกเป็นครั้งที่ 4 โดยจุดนี้เกิดการแตกอย่างรวดเร็วและมีขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งดำเนินการซ่อมแซม โดยใช้ทั้งกำลังคนและแผงเหล็กที่ใช้กั้นถนนมาช่วยกั้นกระแสน้ำ พร้อมกับวางกระสอบทรายลงอย่างรวดเร็ว หลังจากใช้เวลาพักใหญ่ก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในที่สุด

น้ำยังคงไหลผ่านรอยต่อของกระสอบทราย ทำให้จำเป็นต้องมีคนเข้ามาช่วยเสริมกระสอบทรายที่ทำเป็นบังเกอร์เพื่อเพิ่มความแข็งแรง นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะนำแบริเออร์และกระสอบทรายอีกกว่า 200 กระสอบมาเสริมความแข็งแรงอีกด้วย อีกทั้งจะมีการเปิดช่องให้น้ำไหลเพื่อลดแรงดัน โดยให้น้ำไหลลงท่อระบายน้ำและใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่สูบกลับลงสู่แม่น้ำโขง

กระสอบทรายที่ใช้สร้างบังเกอร์ในชุมชนวัดธาตุแห่งนี้มีความยาวประมาณ 200 เมตร โดยเริ่มต้นจากการวางกระสอบในระดับความสูงเพียง 2-3 กระสอบเท่านั้น เมื่อระดับน้ำโขงสูงขึ้น จึงมีการเสริมกระสอบเพิ่มเติมขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้โครงสร้างไม่แข็งแรงพอที่จะต้านทานแรงดันจากน้ำโขงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้