"สน - เฟิร์น" ใส่กันยับเลิฟซีนขาโต๊ะแทบหัก เล่นถึงจนดราม่ารัวๆ

"สน ยุกต์-ใบเฟิร์น" ใส่กันยับเลิฟซีนขาโต๊ะแทบหัก เล่นถึงจนดราม่ารัวๆ ใน ทองประกายแสด EP.9

เข้มข้นทุกตอน ล่าสุด ทองประกายแสด EP.9 ทำถึงทำเกินอีกแล้ว กับฉากเลิฟซีนไฟลุกระหว่าง ทองดี (ใบเฟิร์น) กับ สารวัตรมิตร (สน ยุกต์) ที่เล่นฉากเลิฟซีนแบบถึงพริกถึงขิงจนโต๊ะสั่น ทำคนดูอึ้งกับความดุเดือดของฉากนี้

บอกเลยว่าไม่มีแผ่วเรื่องความแซ่บกับเรื่องราวการตามหารักแท้ของ ทองดี (ใบเฟิร์น) ที่มีผู้ชายมากหน้าหลายตาเข้ามาในชีวิตเธอ อย่างคนล่าสุด สารวัตรมิตร (สน ยุกต์) ตำรวจหน้าหล่อที่มาพร้อมภารกิจลับให้ทองดีตามสืบ และปิดจ็อบภารกิจด้วยจูบสุดร้อนแรงก่อนจะกลายเป็นค่ำคืนเร่าร้อนแสนดุเดือดกับทองดี

ล่าสุด ชาวเน็ตคอละครที่ตามส่องพฤติกรรมบนเตียง เอ้ย พฤติกรรมสารวัตร "สน ยุกต์" ต่างพากันวิจารณ์ว่าฉากเลิฟซีนโรมรันพันตู "ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก" ในทองประกายแสด EP.9 นั้น มันช่างหวือหวาจนเกิดความห่วงใยในแฟนๆ ละครที่เป็นเยาวชน จนขนเอาดราม่ามากองที่หน้าทีวีระนาว อาทิ

- อะไรกันครับเนี่ยะ บทสารวัตรจะนิ่งๆ ก็นิ่งเงียบ บทจะร้อนแรงแม่งก็ถอดเสื้อ ถอดกางเกงไวเวอร์ ใดๆ คือสงสารน้องทองสุดๆ เหมือนหนีเสือปะจระเข้ เผลอๆ น้องชายร้ายกว่าพี่อีก พี่มันร้ายแบบเปิดเผย แต่น้องชายร้ายลึก มาอีกแล้วอีพวกน้ำนิ่งไหลลึกมาแบบนิ่งๆ

- ทองไม่ได้ตะลึงกับรสรักของสารวัตรหรอกแค่งงๆ ว่าทำไมเสร็จไว

- งงไหมล่ะ ละมุนอยู่ดีๆ ผลักหัวทิ้ง ละบอกจะไปหาอะไรให้กิน

- แสดงได้จิตมากค่ะพี่สน

- หลอกใช้ทองเพื่อเอาชนะพี่ชายตัวเองนี่เอง ร้ายมาก!

- จริงๆ​ จบแต่ตรงโต๊ะสั่นก็พอมั้ยง่ะ? ที่เหลือแรงไป​ ดูมีศิลปะน้อยมาก

- คุยกันแบบไม่อายเลย ละครเด็กอย่าชมค่ะ

- พี่ศรีย้ายออกไปแล้ว ฝากของคืนทองด้วย สารวัตรบอกศรีไม่ยอมมาอยู่ด้วย เพราะไม่อยากหยุดอยู่ที่ใครคนเดียว อยากมีอิสระ พี่ศรี คนที่จริงใจกับทอง ที่เหลือเพียงคนเดียว ก็หายไปจากชีวิตทองอีกแล้ว ทองตอนนี้คือตัวคนเดียวของแท้เลย

กระแสตอบรับจากผู้ชมต่อละคร "ทองประกายแสด EP.9" นั้นเรียกได้ว่าร้อนแรงและเต็มไปด้วยความคิดเห็นที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวละครสารวัตร ซึ่งการกระทำที่แสดงออกถึงความจิตและความริษยาได้จุดชนวนให้เกิดเป็นดราม่าที่ลุกลามไปอย่างรวดเร็วในโลกโซเชียล ผู้ชมส่วนใหญ่ต่างแสดงความไม่พอใจต่อพฤติกรรมของสารวัตรที่เกินเลยขอบเขต และมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและน่ารังเกียจ อีกทั้งยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเขียนบทที่ทำให้ตัวละครตัวนี้มีความซับซ้อนและน่ากลัวเกินกว่าจะรับได้ ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือดในโลกออนไลน์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพลังของโซเชียลมีเดียที่สามารถขยายผลและกระตุ้นให้เกิดการพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว