อดีตตัวประกันเผย "ฮามาสบังคับให้เปลี่ยน มานับถือศาสนาอิสลาม"

     อดีตตัวประกันที่ถูกฮามาสจับตัวไว้ "โมแรน สเตลลา" ได้ออกมากล่าวถึงระหว่างที่เธอถูกจับตัวในฐานะตัวประกัน อีกทั้งเธอยังถูกเรียกร้องค่าไถ่จากพ่อของเธอว่า... "กลุ่มฮามาสเรียกร้องค่าไถ่สำหรับการปล่อยตัวฉัน จากพ่อแม่ของฉัน ซึ่งพวกเขายังขู่ว่าจะฆ่าฉัน หากพ่อแม่ของฉันปฏิเสธ" และ "พวกเขาก็ยังพยายามทุกวิถีทาง เพื่อให้ฉันเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามด้วย!!"

     "โมแรน สเตลลา" กล่าวอีกว่า "วันหนึ่ง... ประมาณเที่ยงวัน ฉันและตัวประกัน อีก 2 คน นั่งอยู่ในห้องหนึ่ง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ใดๆที่อาจเกิดขึ้น โดยในห้องที่อยู่ติดกัน ซึ่งมีพวกฮามาสอยู่ พวกมันเอาแต่พูดว่า "อะบูฮา อะบูฮา" ซึ่งแปลว่า "พ่อของเธอ พ่อของเธอ" หลายต่อหลายครั้ง แล้วหลังจากนั้นพวกเขาก็เอาแต่ ถามฉันเรื่องพ่อของฉัน..." และ "พวกเขาถามฉันว่า "พ่อของคุณรักคุณไหม?" ซึ่งฉันก็ตอบว่า "แน่นอน พวกเขารักฉันแน่นอน" แล้วเขาก็ถามฉันว่า "แล้วตัวคุณมีค่าเป็นเงินเท่าไหร่?" และ "พ่อของคุณมีรายได้เท่าไร? และ คำถามอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและสังคม..."

     "โมแรน สเตลลา" กล่าวว่า "เกือบทุกวัน พวกเขาคนหนึ่งจะเข้ามาในห้อง และ พูดว่า "ถ้าคุณเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม มันจะดีกว่าสำหรับตัวคุณเอง" และ พวกเขาก็เอาผ้าคลุมหัวมาสวมให้ฉัน พร้อมกับพูดว่า "เธอเป็นสาวมุสลิมแล้ว!!" และ พวกเขายังบังคับให้ฉันนั่งฟังพวกเขาอ่านทุกอย่าง ในอัลกุรอานให้ฟังด้วย อีกทั้งพวกเขายังเรียกร้องให้ฉันสรรเสริญพระเจ้าของพวกเขา แล้วก็ยังกล่าวอีกว่า "หากคุณเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม เราจะปล่อยตัวคุณเร็วกว่านี้..."

     "โมแรน สเตลลา" กล่าวเสริมว่า "ในฐานะผู้หญิง ความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉัน คือ การถูกจับตัวไปขายให้กับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ และ บังคับให้ฉันแต่งงาน พร้อมกับถูกจับเปลี่ยนศาสนา" และ "ที่สิ่งที่ฉันเจอมันเป็นอะไร ที่ทำให้ฉันและครอบครัวของฉัน รู้สึกบอบช้ำทางจิตใจมาก!!" เพราะตอนแรกพวกเขาขู่พ่อแม่ของฉัน ว่าจะฆ่าฉันหากไม่ได้เงินภายใน 1 ชั่วโมง...