รัสเซียใช้โดรนกว่า 100 ลำ โจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน ทำไฟดับเป็นวงกว้างและทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย
เป็นการรายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศเมื่อวานนี้ (26 สิงหาคม 2567) ว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ได้เปิดเผยว่า รัสเซียโจมตีทางอากาศทั่วยูเครนด้วยขีปนาวุธหลายชนิดรวมกว่า 100 ลูก และโดรนรุ่น ชาเฮ็ด อีกเกือบ 100 ลำ ช่วงกลางดึกจนถึงวันจันทร์ (26 สิงหาคม) ซึ่งเป็นหนึ่งในการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดในสงครามที่ยืดเยื้อกว่า 2 ปีครึ่ง กองทัพยูเครน บอกว่า สามารถสกัดขีปนาวุธและโดรนจำนวนมาก ที่พุ่งเป้าเกือบทุกภูมิภาคของยูเครน ทั้งจากแนวหน้าในภาคตะวันออก ได้แก่ คาร์คีฟ และดนีโปร ไปจนถึงเมืองท่าทางตอนใต้ คือ โอเดสซา และกรุงเคียฟ และเดนิส ชมีฮัล นายกรัฐมนตรีของยูเครน โพสต์ในเทเลแกรมว่า ผู้ก่อการร้ายรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานอีกครั้ง และอย่างน้อย 15 ภูมิภาคถูกโจมตีด้วยโดรน ขีปนาวุธร่อน และขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกรุ่น คินซาล และบริษัทพลังงานแห่งชาติ ยูเครเนอร์โกจำเป็นต้องใช้มาตรการตัดไฟเพื่อรักษาความปลอดภัยของระบบ
ขณะที่มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย ไฟดับในหลายเมือง รวมถึง กรุงเคียฟ และดนีโปร และปรากฏภาพประชาชนในกรุงเคียฟ เข้าหลบภัยตามสถานีรถไฟใต้ดินต่างๆ แหล่งข่าวทางทหารของรัสเซีย ยืนยันว่า กองทัพใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูงโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในยูเครน โดยอ้างว่า โครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้สนับสนุนอุตสาหกรรมทางทหารของยูเครน ยูเครนเผชิญการโจมตีอย่างหนักหน่วงจากรัสเซียช่วงหลายสัปดาห์นี้ เพื่อตอบโต้ที่กองทัพยูเครนสามารถส่งกองกำลังทหารบุกข้ามพรมแดนเข้าไปในแคว้นเคิร์สก์แบบสายฟ้าแลบโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม และอ้างว่าควบคุมพื้นที่ได้กว่า 1,000 ตร.กม.