ตำรวจรวบตัวหนุ่มดีกรีปริญญาเอก ที่ชอบยิงปืนจนโดนชาวบ้านร้องเรียน พบอาวุธปืนเพียบ แถมพบยาบ้าด้วย
เรื่องราวของตำรวจบุกรวบหนุ่มวัย 35 ปี ดีกรีจบปริญญาเอกนี้ ได้ถูกเปิดเผยขึ้นมาเมื่อวานนี้ (25 สิงหาคม 2567) หลังพ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า พล.ต.ต.ภิรมย์ สวนทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร สั่งการให้ พ.ต.อ.ภูมิ ทองโพธิ์ ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเสือดำ 651 กก.สส.ภ.จว.ยโสธร นำหมายค้นศาลจังหวัดยโสธร ที่ 51/2567 ลงวันที่ 21 ส.ค.2567 เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งใน ต.ห้องแซง อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร จากการเข้าตรวจค้นพบ นายอริยชาติ หรือ ป๊อบปี้ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านและเป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนสั้นและปืนยาว รวม 13 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน จำนวน 58 นัด, ปลอกกระสุนที่ยิงแล้ว ประมาณ 200 ปลอก, ยาบ้า จำนวน 78 เม็ด รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ จำนวน 1 คัน สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารจำนวน 2 เล่ม รวมทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 800,000 บาท และอื่นๆอีกหลายรายการ จึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบเป็นหลักฐานต่อไป
มีรายงานว่าสำหรับ นายอริยชาติ หรือป๊อบปี้ เรียนจบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในภาคอีสาน และเป็นเจ้าของสวนผลไม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ มีนิสัยชอบสะสมอาวุธปืน และชอบการยิงปืน จากการตรวจสอบพบเป็นอาวุธปืนจริง จำนวน 4 กระบอก ส่วนที่เหลือเป็นปืนแบลงค์กันนำมาดัดแปลงจนสามารถใช้กระสุนจริงยิงได้ ซึ่งการตรวจค้นในครั้งนี้ เนื่องจากมีชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบเพราะได้ยินเสียงยิงปืนอยู่เป็นประจำในพื้นที่ จนเจ้าหน้าที่ขอหมายค้นเข้าตรวจสอบและทำการจับกุมตัวในครั้งนี้ โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ส่วนยาเสพติดที่พบอ้างว่านำมาแจกจ่ายให้คนงานในไร่เอาไว้เสพเท่านั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ,จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เลิงนกทา จังหวัดยโสธร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป