ถ่ายภาพม้าเคลื่อนไหว จุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ภาพเคลื่อนไหว
ภาพถ่ายชุด "The Horse in Motion" ของ Eadweard Muybridge ที่สร้างขึ้นในปี 1878 เป็นผลงานภาพถ่ายที่เปิดประตูสู่การบันทึกการเคลื่อนไหวของม้าในลักษณะที่ไม่เคยมีมาก่อน ภาพถ่ายชุดนี้ถูกสร้างขึ้นตามคำสั่งของ Leland Stanford นักธุรกิจและเจ้าของม้าแข่งชื่อดัง ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง Stanford University โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยุติข้อถกเถียงที่ยืดเยื้อมานานเกี่ยวกับการวิ่งของม้าว่า ในช่วงการวิ่งเต็มที่ ม้าจะมีขาทั้งสี่ลอยจากพื้นพร้อมกันหรือไม่
ก่อนที่ Muybridge จะสร้างผลงานชุดนี้ การแสดงภาพการเคลื่อนไหวของม้าส่วนใหญ่อาศัยการใช้ท่าทางตามแบบประเพณีนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าที่เรียกว่า "การวิ่งแบบบินได้" ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริงที่ว่าม้าจะดูสง่างามและลอยตัวอยู่ในอากาศตลอดเวลาในขณะวิ่ง Stanford ผู้ซึ่งสนใจกลไกการเคลื่อนไหวของม้าอย่างยิ่ง จึงต้องการหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มายืนยันปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "การเคลื่อนที่โดยปราศจากการรองรับ" (unsupported transit) ซึ่งหมายถึงช่วงเวลาหนึ่งในการวิ่งที่ม้ามีขาทั้งสี่ลอยจากพื้นพร้อมกัน
ในเดือนมิถุนายน 1878 Muybridge ได้ติดตั้งกล้องถ่ายภาพจำนวน 12 ตัวตามแนวทางวิ่งที่ฟาร์มของ Stanford ในเมือง Palo Alto โดยกล้องแต่ละตัวจะถูกทำงานด้วยเส้นด้ายที่ถูกดึงขาดเมื่อม้าชื่อ Sallie Gardner วิ่งผ่านด้วยความเร็วประมาณ 40 ไมล์ต่อชั่วโมง ภาพถ่ายที่ได้มีความเร็วชัตเตอร์ 1/1,000 วินาที ซึ่งเปิดเผยให้เห็นว่าในช่วงเวลาหนึ่งของการวิ่ง ม้าจริงๆ แล้วมีขาทั้งสี่ลอยจากพื้นพร้อมกัน ยืนยันสมมติฐานของ Stanford
ภาพถ่ายจากชุด "The Horse in Motion" ไม่เพียงแต่ยืนยันการสืบค้นทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของสัตว์เท่านั้น แต่ยังถือเป็นความก้าวหน้าอย่างมากในวงการภาพถ่ายด้วย ผลงานของ Muybridge วางรากฐานสำหรับการศึกษาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวในอนาคต และส่งผลต่อการพัฒนาภาพยนตร์ การใช้ภาพถ่ายลำดับภาพของเขาถือเป็นจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์สมัยใหม่ และเขายังได้สร้างเครื่องมือชื่อ zoopraxiscope เพื่อฉายภาพเคลื่อนไหวในภายหลัง
ภาพถ่ายชุดนี้ได้เปลี่ยนแปลงการรับรู้เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของม้า โดยแสดงให้เห็นว่าม้าไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างสง่างามเหมือนที่คิดกันมาก่อน แต่กลับแสดงท่าทางที่ไม่สวยงามในช่วงต่างๆ ของการก้าวเดิน การเปิดเผยความจริงนี้ส่งผลกระทบไม่เพียงแต่ต่อศิลปินเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อผู้ฝึกสอนและผู้เลี้ยงม้าด้วย เนื่องจากมันนำเสนอมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับกลไกการเคลื่อนไหวของม้า