องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) เป็นภาวะฉุกเฉินที่ทั่วโลกควรให้ความสำคัญ
'โรคฝีดาษลิง' ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างน้อย 13 ประเทศในแอฟริกาได้รับการประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC) โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เพียงไม่กี่วันหลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา (Africa CDC) ออกประกาศที่คล้ายคลึงกันเป็นครั้งแรกสำหรับทวีปแอฟริกา องค์การอนามัยโลกก็ได้ประกาศว่าคณะกรรมการฉุกเฉินได้พบว่าเชื้อ mpox หรือโรคฝีดาษลิงเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของประชาชนทั่วโลกอีกครั้ง
อาการของโรค mpox หรือฝีดาษลิงมักเริ่มด้วยอาการไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีผื่น และเมื่อมีผื่นขึ้น ผู้ป่วยจะเกิดตุ่มน้ำที่คันหรือเจ็บ และอาจส่งผลต่อผิวหนังได้ทุกส่วนของร่างกาย ผู้ที่เป็นโรคฝีดาษลิงสามารถแพร่เชื้อได้จนกว่าตุ่มน้ำทั้งหมดจะหายสนิท
ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีการตรวจพบเชื้อไวรัส mpox ในกลุ่ม Clade 1b ที่ได้รับการยืนยันจากห้องปฏิบัติการมากกว่า 100 เคส ในบุรุนดี เคนยา รวันดา และยูกันดา ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่เคยพบการระบาดของเชื้อ mpox หรือ ฝีดาษลิงมาก่อน รองศาสตราจารย์ Sanjaya Senanayake ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย กล่าวว่า "เชื้อไวรัสในกลุ่ม Clade 1b เป็นกลุ่มโรคที่รุนแรงกว่า และอัตราการเสียชีวิตสูงกว่า เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดการระบาดในปี 2022"
ดร. Matshidiso Moeti ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคแอฟริกา กล่าวว่า “ขณะนี้ได้มีการพยายามดำเนินการอย่างมากร่วมกับชุมชนและรัฐบาล โดยทีมงานของเราในแต่ละประเทศได้ทำงานแนวหน้าเพื่อช่วยเสริมมาตรการควบคุมโรคฝีดาษลิงที่กำลังแพร่ระบาดอย่างเพิ่มขึ้น เราจึงขยายขอบเขตการทำงานผ่านการดำเนินการระหว่างประเทศที่ประสานงานกันในการสนับสนุนประเทศต่างๆ เพื่อยุติการระบาด”