หญิงอังกฤษทุ่มเงินมหาศาล ตัดต่อขาเพื่อเพิ่มความสูง
หญิงชาวอังกฤษ "เอเลน ฟู" รู้สึกไม่พอใจกับความสูงของเธอมาโดยตลอด โดยเธอกล่าวว่า "ตอนที่ฉันอายุ 12 ขวบ ฉันสูงกว่าเด็กผู้หญิงส่วนใหญ่ แต่เมื่ออายุ 14 ปี ฉันก็กลายเป็นเด็ก ที่เตี้ยที่สุดในชั้นเรียน..." และ :เมื่อเวลาผ่านไป "ความสูง" ก็กลายเป็นความหลงใหลของฉัน"
เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ความหลงใหลในความสูงของฉันได้พุ่งถึงขีดสุด ฉันรู้สึกว่าทุกสิ่งในชีวิตเกี่ยวข้องกับความสูง คนที่สูงกว่าจะสวยกว่า คนที่สูงกว่าจะมีโอกาสมากกว่า และ คนที่สูงกว่าก็สามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นได้... ซึ่งฉันรู้สึกว่าฉันกำลังทุกข์ทรมาน จากโรคกลัวความผิดปกติของร่างกาย ซึ่งฉันรู้ว่ามันเป็นโรคทางจิต...
วันหนึ่งเมื่อฉันอายุ 25 ปี ฉันอ่านเจอบทความเกี่ยวกับ การผ่าตัดยืดขา นั่นคือการเพิ่มความสูงของขาที่ถูกตัดแล้วต่อเข้าไปใหม่ และ ถึงแม้ขั้นตอนในการทำ มันจะดูโหดร้ายแต่ฉันคิดว่ามัน ก็คุ้มค่าที่จะทำเพื่อเพิ่มความสูง...
หลังจากนั้นอีก 16 ปีต่อมา ฉันซึ่งมีอายุ 41 ปี ในที่สุดฉันก็เก็บเงินเพียงพอที่จะผ่าตัด ซึ่งฉันใช้เงินไปมากถึง 15,000-150,000 ปอนด์ เพื่อผ่าตัดในหลายๆขั้นตอน กับหมอของคลินิกเอกชน ซึ่งฉันใช้เงิน 50,000 ปอนด์ เพื่อจองตัวและนัดหมายกับ นายแพทย์ "กุยเชตต์" โดยหวังว่าฉันจะยืดตัวเอง จากความสูงเดิมๆที่ 157 ซม. เป็น 165 ซม.
"กุยเชตต์" กล่าวว่า "การผ่าตัดเพิ่มความยาวขา มีความเสี่ยงอยู่บ้าง เช่น เส้นประสาทถูกทำลาย ลิ่มเลือด และ กระดูกต่อไม่ติด ซึ่งจะไม่สามารถรักษาได้ อีกทั้งยังรับประกันอะไรไม่ได้เลยอีกด้วย..."
"เอเลน ฟู" กล่าวว่า "ฉันค้นคว้าข้อมูลมาทั้งชีวิต และ ฉันเชื่อมั่นในหมอค่าตัวแพง ซึ่งฉันคิดว่าฉันจะได้รับสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด สำหรับเงินของฉัน..."
ดังนั้นในวันที่ 25 กรกฎาคม 2016 เธอจึงถูกส่งเข้าห้องผ่าตัด แล้วซึ่งชีวิตของเธอหลังจากนั้นก็เปลี่ยนไป... โดยในตอนแรกเธอรู้สึกตื่นเต้นมาก เมื่อตื่นขึ้นมาครั้งแรก โดยพบว่าตัวเองมีขาที่ยาวขึ้น แต่หลังจากนั้นอีก 90 นาทีต่อมา ความเจ็บปวดก็เริ่มต้นขึ้น
โดยเธอกล่าวบรรยายถึงความเจ็บปวดว่า "ขาของฉันราวกับว่ามัน กำลังถูกไฟไหม้อยู่ ฉันรู้สึกร้อนและเจ็บปวด จากภายในสู่ภายนอก ฉันกรีดร้องนานหลายชั่วโมง ก่อนที่จะหลับไปอย่างเจ็บปวด..."
"กุยเชตต์" กล่าวว่า "การผ่าตัดเพิ่มความยาวขา ย่อมทำให้เกิดอาการปวดได้ เนื่องจากกระดูกขาของเธอถูกตัดออก แล้วใช้แท่งเหล็กยึด โดยการขันน็อตเข้าไป แต่หลังจากนั้นความเจ็บปวดของเธอจะหายไป เมื่อกระดูกเข้าที่ และ หายเป็นแผล แต่กว่าจะหาย น่าจะนานหลายเดือน..."
หลังจากนั้นอีก 6 สัปดาห์ ผลการสแกนขาขวาของเธอ พบว่ากระดูกของเธอเติบโตไม่เพียงพอ ซึ่งหมายความว่ากระดูกของเธอ ไม่ได้หุ้มแท่งเหล็ก ซึ่งก็คือขาของเธอไม่เชื่อมต่อกับเหล็กนั่นเอง แต่หลังจากนั้นเธอก็ได้รับการผ่าตัดอีกครั้ง แต่มันก็ยังคงเลวร้ายกว่าเดิมอีกหลายเท่า ซึ่งนั่นทำให้เธอไม่สามารถเชื่อใจเขาได้แล้ว เธอเลยไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเขาบอกกับเธอว่า "ขาของคุณ จะสามารถฟื้นตัวได้ แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี โดยประมาณ"
แต่ตอนนี้ 8 ปีผ่านแล้ว ไปนับตั้งแต่การผ่าตัดครั้งแรก ของเธอ... ในช่วงเวลานี้ เธอเข้ารับการผ่าตัด 5 ครั้ง และ ปลูกถ่ายกระดูก 3 ครั้ง และ เธอยังคงมีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวอยู่หลายครั้ง เธอต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคความเครียด หลังเหตุการณ์สะเทือนใจ หลังจากนั้นเธอได้ฟ้องคลินิกของแพทย์สุดห่วยคนนี้ มาตั้งแต่ปี 2020
ทนายความของ "กุยเชตต์" กล่าวว่า "นายแพทย์ "กุยเชตต์" บอกคุณก่อนแล้วนี่ว่า มันมีความเสี่ยงสาระพัด แต่คุณก็ยังดื้อรันที่จะทำ" และ "นี่ไม่ถือว่าเป็นการทุจริต การประมาท หรือ ล้มเหลว ในฐานะแพทย์"
อย่างไรก็ตาม ในเดือนกรกฎาคม 2024 "กุยเชตต์" ได้ยื่นจ่ายค่าชดเชยจำนวนมหาศาล ให้กับเธอเพื่อให้คดีจบลง...
"เอเลน ฟู" กล่าวเสริมว่า "ตอนนี้ฉันรู้สึกเสียใจมาก ฉันกลายเป็นโสด ว่างงาน ไร้เงิน และพิการ..." และ "ฉันได้สูญเสียช่วงเวลา ที่ดีที่สุดในชีวิตไปหมดแล้ว"