สำรวจราคาดอกมะลิวันแม่ แม่ค้าชัยภูมิถึงกับร้องจ๊าก! ราคาดอกมะลิพุ่งทะลุ 4 เท่า
แม่ค้าชัยภูมิถึงกับร้องจ๊าก! ราคาดอกมะลิพุ่งทะลุ 4 เท่า สู้ราคาไม่ไหว หันใช้ดอกพุดร้อยพวงมาลัยขายแทนในวันแม่ปีนี้
ในช่วงใกล้ถึงวันแม่แห่งชาติปีนี้ บรรยากาศการเตรียมตัวของพ่อค้าแม่ค้าดอกไม้สดในจังหวัดชัยภูมิเต็มไปด้วยความคึกคัก แต่ก็มาพร้อมกับความกังวลใจเมื่อราคาดอกมะลิ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับร้อยพวงมาลัยเพื่อใช้ในวันแม่แห่งชาติ ปรับตัวสูงขึ้นถึง 4 เท่าจากราคาปกติ ทำให้แม่ค้าหลายรายต้องปรับตัวและหันไปใช้ดอกไม้อื่น ๆ เช่น ดอกพุด มาร้อยเป็นพวงมาลัยขายแทน
จากการลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของแม่ค้าดอกไม้สดในย่านตลาดต่าง ๆ ของจังหวัดชัยภูมิ ทีมข่าวได้พบกับนางประทุมศรี เพชรล้ำ แม่ค้าขายพวงมาลัยดอกไม้สดในตลาดอำเภอเกษตรสมบูรณ์ ซึ่งเล่าให้ฟังว่า ปกติแล้วราคาดอกมะลิในช่วงที่ยังไม่ใกล้วันแม่จะอยู่ที่ประมาณ 300-400 บาทต่อกิโลกรัม แต่พอใกล้ถึงวันแม่ ราคากลับพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจจนมาอยู่ที่ 1,200-1,400 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาที่สูงมากเกินกว่าที่แม่ค้าหลายคนจะรับไหว
นางประทุมศรียังเล่าอีกว่า สาเหตุที่ราคาดอกมะลิพุ่งสูงในปีนี้เป็นเพราะฝนตกชุก ทำให้ดอกมะลิเกิดเน่าเสียและมีปัญหาหนอนลง ทำให้ผลผลิตลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ ปัญหาฝนตกยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพของดอกมะลิที่เก็บมาได้ ทำให้ดอกมะลิมีจำนวนน้อยลงไปอีก ส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างมหาศาลในช่วงวันแม่ปีนี้
หันไปใช้ดอกพุดร้อยพวงมาลัยแทน
ด้วยราคาดอกมะลิที่พุ่งสูงเกินเอื้อม แม่ค้าหลายรายจึงต้องปรับตัวและหันไปใช้ดอกไม้ชนิดอื่น ๆ มาร้อยเป็นพวงมาลัยขายแทน นางประทุมศรีเล่าว่า ปีนี้เธอต้องหันไปใช้ดอกพุดและดอกมะลิบางส่วนที่ได้ปลูกไว้เอง มาร้อยเป็นพวงมาลัยขายในวันแม่ เพื่อให้มีรายได้บ้าง แม้ว่าจะไม่สามารถใช้ดอกมะลิได้เต็มที่เหมือนทุกปีที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกัน นางหนูขัน สัมถะ แม่ค้าพวงมาลัยดอกไม้สดในย่านตลาดอำเภอภูเขียว ก็เล่าว่า เธอเองก็ต้องเก็บดอกมะลิจากสวนที่ปลูกไว้เองมาเสริม เพื่อให้เพียงพอต่อการทำพวงมาลัยขายในช่วงวันแม่เช่นกัน โดยในแต่ละปีดอกมะลิมักจะมีการปรับราคาสูงขึ้นในช่วงนี้ แต่ปีนี้ถือว่าปรับขึ้นสูงมากเป็นพิเศษ ทำให้ต้องพึ่งพาดอกไม้ชนิดอื่นอย่างดอกพุดเพื่อทดแทน
แม้ว่าราคาต้นทุนจะเพิ่มสูงขึ้นมาก แต่แม่ค้าหลายคนยังคงต้องคงราคาขายพวงมาลัยไว้ที่ระดับที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ โดยนางหนูขันเล่าว่า ราคาพวงมาลัยในช่วงวันแม่ปีนี้จะยังคงเริ่มต้นที่ 20-50 บาทสำหรับพวงเล็ก และสูงสุดที่พวงละ 100 บาทสำหรับพวงขนาดใหญ่ แม้จะต้องใช้ดอกพุดมาทดแทนดอกมะลิในบางส่วนก็ตาม
จากการสำรวจเพิ่มเติม พบว่าตลาดดอกมะลิที่ส่งมาขายให้กับแม่ค้าในตลาดนั้น ราคายังคงสูงอย่างต่อเนื่อง โดยดอกมะลิบ้านที่มีกลิ่นหอม ราคาพุ่งไปถึง 1,400 บาทต่อกิโลกรัมจากเดิมที่ไม่เกิน 300-500 บาท ส่วนมะลิพันธุ์อินโด ซึ่งถือว่าเป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูง ราคาก็เพิ่มขึ้นเป็น 800-1,200 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมที่ไม่เกิน 300-400 บาท
สาเหตุหลักที่ทำให้ราคาดอกมะลิพุ่งสูงขึ้นในปีนี้มาจากปัญหาฝนตกชุก ส่งผลให้ดอกมะลิเน่าและมีหนอนลง ทำให้ผลผลิตลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ การที่ดอกมะลิมีจำนวนน้อยลงในช่วงที่มีความต้องการสูงสุดเช่นนี้ ทำให้เกิดการปรับตัวของราคาขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในปีนี้ ราคาดอกมะลิที่พุ่งสูงถึง 4 เท่าจากราคาปกติ ทำให้แม่ค้าดอกไม้ในจังหวัดชัยภูมิและหลายพื้นที่ต้องปรับตัว โดยหันไปใช้ดอกไม้อื่น ๆ เช่น ดอกพุด มาทำพวงมาลัยขายแทน ในขณะที่ยังคงพยายามรักษาราคาขายไว้ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ ความท้าทายนี้เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นและการปรับตัวของแม่ค้าดอกไม้ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในช่วงเทศกาลสำคัญเช่นนี้ 🌸
ภาพ : twitter (x.com)