"แฮร์ริส" โกยคะแนนคนสีผิว ส่วน "ทรัมป์" โกยคะแนนคนผิวขาว
ผลการวิเคราะห์โพลสำรวจเผยให้เห็นว่า ตัวแทนพรรคเดโมแครต "คามาลา แฮร์ริส" ที่ลงชิงชัยเก้าอี้ประธานาธิบดีอเมริกา กำลังได้รับคะแนนนิยมจากกลุ่ม ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผิวดำ ซึ่งแซงหน้าตัวเลขที่ประธานาธิบดี "โจ ไบเดน" ที่เคยทำไว้ ในขณะที่ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน "โดนัลด์ ทรัมป์" ยังคงครองใจโหวตเตอร์ จากกลุ่มคนผิวขาว ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา...
ผลการวิเคราะห์นี้ได้ศึกษาคำตอบ จากผู้ตอบแบบสำรวจกว่า 10,000 คน จากโพลทั่วประเทศ 7 ครั้ง ที่จัดทำตั้งแต่เดือน พ.ค. 2024 เป็นต้นมา ซึ่งผลลัพธ์ชี้ให้เห็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนที่สำคัญของ "คามาลา แฮร์ริส" ซึ่งก้าวขึ้นมารับไม้ต่อจาก "โจ ไบเดน" หลังจากที่เขาได้ประกาศถอนตัว จากการลงสมัครชิงตำแหน่งอีกสมัย เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2024 ซึ่งหาก "คามาลา แฮร์ริส" เอาชนะ "โดนัลด์ ทรัมป์" ในการเลือกตั้งวันที่ 5 พ.ย. 2024 นี้ได้ ก็จะกลายเป็นผู้นำหญิงผิวดำคนแรกของอเมริกา อีกทั้งเธอยังเป็นผู้นำอเมริกาคนแรก ที่มีเชื้อสายเอเชียด้วย!!
ผลโพลเดือน ก.ค. 2024 ชี้ว่า "หากให้เลือกระหว่าง "แฮร์ริสกับทรัมป์" ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผิวดำ 70% จะเลือกแฮร์ริส ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากผลโพลเดือน พ.ค.และมิ.ย. 2024 ที่มีเพียง 59% ที่สนับสนุนไบเดน ส่วนทรัมป์นั้น คะแนนนิยมในกลุ่มคนผิวดำ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 12% ในเดือน ก.ค. 2024 จาก 9% ในเดือน พ.ค.และมิ.ย. 2024 ในขณะเดียวกัน ทรัมป์กำลังได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น จากคนผิวขาว โดยผลโพลเดือน ก.ค. 2024 ชี้ว่า 50% ของโหวตเตอร์กลุ่มนี้เลือกทรัมป์ เพิ่มขึ้นจาก 46% ในเดือน พ.ค.และมิ.ย. 2024 ส่วนแฮร์ริสนั้น ได้รับเสียงสนับสนุนจากกลุ่มคนผิวขาว 38% ในเดือน ก.ค. 2024 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 36% ในเดือน พ.ค.และมิ.ย. 2024"
ผลโพลทั้งหมดของเดือน ก.ค. 2024 บ่งชี้ว่า "การแข่งขันยังคงสูสีมาก โดยพบว่าแฮร์ริสและทรัมป์ ต่างได้รับคะแนนนิยมเท่ากันที่ 43% ส่วนผลโพลในช่วงเดือน พ.ค.และมิ.ย. 2024 โดยไบเดนและทรัมป์ ต่างก็ได้คะแนนเท่ากันที่ 40% เช่นกัน
ทีมงานหาเสียงของแฮร์ริส คาดการณ์ว่า "การแข่งขันจะยังคงเป็นไปอย่างสูสี จนถึงวันเลือกตั้งในเดือน พ.ย. 2024"