ชายชาวโปแลนด์ที่ทำร้ายนายกฯของเดนมาร์ก ถูกตัดสินจำคุก 4 เดือน และเนรเทศออกนอกประเทศ
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์กในวันนี้ (8 สิงหาคม 2567) ว่าศาลเดนมาร์กตัดสินจำคุกชายชาวโปแลนด์วัย 39 ปี ซึ่งก่อเหตุชกนายกรัฐมนตรีเมตเต เฟรเดอริกเซน ผู้นำเดนมาร์ก เป็นระยะเวลา 4 เดือน และเนรเทศออกจากราชอาณาจักร โดยชายชาวโปแลนด์ วัย 39 ปี ถูกจับกุมทันทีหลังก่อเหตุ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา
โดยนายจาค็อบ เชอร์ฟิก ผู้พิพากษาศาลกรุงโคเปนเฮเกน กล่าวว่า ผู้ต้องsามีความผิดฐานชกไหล่ขวาผู้นำเดนมาร์กด้วยกำปั้น และจะถูกเนรเทศออกจากเดนมาร์กหลังรับโทษจำคุกครบตามกำหนด รวมไปถึงถูกห้ามเข้าเดนมาร์กอีกเป็นเวลา 6 ปี ระหว่างการพิจารณาคดี ผู้ต้องหากล่าวว่า พบกับนายกรัฐมนตรีเดนมาร์กจริง แต่ไม่ได้แตะต้องตัวเธอ และอ้างว่า สูญเสียความทรงจำ เกี่ยวกับช่วงเวลาดังกล่าว เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ และรู้สึกตื่นตกใจเมื่อเผชิญหน้ากับบุคคลสำคัญอย่างกะทันหัน
ทั้งนี้ ผลการตรวจร่างกายของเฟรเดอริกเซน วัย 46 ปี ปรากฏว่า เธอมีรอยฟกช้ำที่ไหล่ขวา และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการถูกเหวี่ยง ขณะที่มีรายงานด้วยว่า ผู้ต้องหามีประวัติกระทำอนาจารและฉ้อโกงหลายครั้ง ก่อนก่อเหตุกับผู้นำเดนมาร์ก นายเฮนริก คาร์ล นีลเซน ทนายความของจำเลย ให้ข้อมูลว่า ลูกความของเขายอมรับคำพิพากษา แต่บทลงโทษจำคุก 4 เดือนนั้นรุนแรงกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย
ขณะเดียวกัน นีลเซนวิจารณ์บทลงโทษจำคุก “ไม่ได้บ่งชี้ชัดเจน” ว่าเกี่ยวข้องกับข้อหาทำร้ายผู้นำประเทศ หรือข้อหาอื่น ๆ มากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม ชายชาวโปแลนด์ถูกคุมขังมาแล้ว 2 เดือน ก่อนถงึวันพิจารณาคดี หมายความว่า เขาเหลือระยะเวลาต้องรับโทษจำคุกอีก 2 เดือน ก่อนถูกเนรเทศออกจากเดนมาร์ก ย้อนไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีนักการเมืองจากประเทศในยุโรปถูกทำร้ายหลายครั้ง ก่อนการเลือกตั้งรัฐสภายุโรป โดยเฉพาะเหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโก ผู้นำสโลวาเกีย ถูกยิง 4 นัดในระยะประชิด ระหว่างทักทายผู้สนับสนุนหลังการประชุมรัฐบาล