พี่จะโหดไปไหน ! สามีฝรั่งฆ่าโหดภรรยาสาว ชี้จุดฝังร่าง สยองพบศีรษะในห้องน้ำ ศาลสหรัฐตัดสินจำคุก 40 ปี
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้คนทั้งโลกต้องสะเทือนใจและช็อกกันไปตามๆ กัน 🥺 เมื่อสามีชาวเท็กซัสวัยเพียง 23 ปี ฆาตกรรมภรรยาสาววัย 21 ปีของตัวเองอย่างโหดเหี้ยม โดยการกระทำของเขานั้นเต็มไปด้วยความโหดร้ายที่ยากจะรับได้
*
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตในบ้านของนายจาเรด เจมส์ ไดคัส และนางแองจี ดิอาซ ภรรยาของเขา สิ่งที่พบในที่เกิดเหตุทำให้ทุกคนต้องช็อก เพราะร่างของนางดิอาซถูกทำร้ายอย่างทารุณ เธอถูกแทงหลายครั้งด้วยมีดทำครัว และสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นคือ ศีรษะของเธอถูกตัดออกและถูกพบในห้องน้ำ 😨 คาดว่าผู้ก่อเหตุได้ชำแหละร่างของเธอ ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้เจ้าหน้าที่และคนในชุมชนต่างรู้สึกสลดใจอย่างมาก
หลังจากก่อเหตุ นายไดคัสได้ติดต่อพ่อแม่ของเขา ซึ่งพวกเขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ พวกเขาจึงเดินทางไปยังบ้านของลูกชาย และเมื่อพบเห็นร่างของนางดิอาซ พวกเขารีบโทรแจ้งตำรวจทันที นายไดคัสถูกจับกุมทันทีที่เจ้าหน้าที่มาถึง และเขาได้สารภาพว่าตัวเองเป็นคนลงมือสังหารภรรยา
แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นอย่างโหดร้าย แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการเปิดเผยแรงจูงใจในการสังหารอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม เพื่อนของนางดิอาซได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า นายไดคัสเป็นคนที่ขี้หึงมาก และเชื่อว่าทั้งคู่เคยมีปัญหาเรื่องการใช้ความรุนแรงในครอบครัวมาก่อน ซึ่งเคยมีการแจ้งเหตุไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะบานปลายมาถึงจุดนี้
ศาลสหรัฐได้ตัดสินลงโทษจำคุกนายไดคัสเป็นเวลา 40 ปี ซึ่งเป็นโทษที่รุนแรงสมควรกับความผิดที่เขาก่อขึ้น โดยทางอัยการเขตวอลเลอร์เคาน์ตีได้ออกแถลงการณ์ว่า นายไดคัสจะไม่มีสิทธิ์ได้รับการพักโทษจนกว่าจะถึงปี 2586 และไม่สามารถยื่นอุทธรณ์คดีหรือคำตัดสินได้
แถลงการณ์ยังระบุเพิ่มเติมว่า "ทางเขตของเราไม่ยอมให้มีความรุนแรงในครอบครัว เหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้จะไม่ถูกละเลย เราจะแสวงหาความยุติธรรมให้กับเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว และส่งข้อความถึงผู้กระทำความผิดว่าที่นี่ เราต่อสู้เพื่อเหยื่อของเรา" 💪
เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องเตือนใจที่สำคัญว่า ความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาร้ายแรงที่ไม่ควรถูกมองข้าม หากคุณหรือใครก็ตามที่คุณรู้จักกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่หรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพราะบางครั้งการเงียบอาจนำไปสู่โศกนาฏกรรมที่ไม่มีวันแก้ไขได้ 😔
ขอให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนและเป็นแรงกระตุ้นให้เราทุกคนร่วมมือกันในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในสังคมของเรา 🙏
ภาพ : twitter (x.com)