แวดวงสัตวแพทย์อิตาลีไม่เห็นด้วย หลังแบรนด์ดังออกน้ำหอมสำหรับสุนัข ห่วงไปรบกวนการประสาทรับกลิ่นของมัน

    ดูเหมือนว่าการพยายามปรนเปรอสัตว์เลี้ยงเกินไปจะไม่ถูกใจสัตวแพทย์สักเท่าไหร่ หลังจากที่แบรนด์แฟชั่นระดับโลกของอิตาลี Dolce & Gabbana ได้เปิดตัวน้ำหอมสำหรับสุนัขในชื่อ ‘Fefé’ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากความรักที่ Domenico Dolce หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ มีต่อเจ้า Fefé สุนัขพุดเดิลคู่ใจของเขา จนเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลก ล่าสุดก็เริ่มมีกระแสที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้น้ำหอมสำหรับสุนัขเกิดขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสัตวแพทย์ในอิตาลี ที่มองว่าการใช้น้ำหอมกับสุนัขอาจจะรบกวนประสาทการดมกลิ่นของพวกมัน และยังเป็นการกลบกลิ่นเหม็น ซึ่งบางครั้งเป็นการส่งสัญญาณให้เจ้าของได้รู้ว่าสุนัขกำลังมีอาการป่วยบางอย่าง นายแพทย์ เฟเดอริก คอคเซีย สัตวแพทย์ในกรุงโรม และด็อกเตอร์จากมหาวิทยาลัยเทอราโม ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวของเอพีว่า

สุนัขจะสามารถระบุตัวตนของพวกมันได้จากกลิ่น รวมทั้งยังแยกแยะกลิ่นของเจ้าของและคนแปลกหน้าได้ด้วยเช่นกัน โดยสุนัขจะจำเจ้าของได้แม้จะยังไม่ทันได้เห็นหน้า เพราะมันจำกลิ่นของเจ้าของได้ ดังนั้นหากมีการใช้น้ำหอม กลิ่นทุกอย่างจะผิดเพี้ยนไปหมด และการกลบกลิ่นเหล่านี้จะสร้างปัญหาไปถึงการวินิจฉัยโรคผิวหนังในสุนัข หากกลิ่นตามธรรมชาติของสุนัขถูกกลบไว้ โดยสัตวแพทย์จะไม่ได้กลิ่นลมหายใจ กลิ่นขี้หู จึงทำให้การวินิจฉัยโรคยากขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังจากสำนักข่าวเอพีติดต่อสอบถามเรื่องนี้ไปยังหน่วยงานสื่อสารของ D&G ก็ยังไม่มีการให้ความเห็นใดๆ ตอบกลับมา ด้านพนักงานร้านตัดขนสุนัขในกรุงโรม กลับคิดเห็นไปในทางตรงข้าม โดยรู้สึกยินดีกับข่าวการเปิดตัวน้ำหอมสำหรับสุนัขครั้งนี้ โดยพวกเขาระบุว่า เวลาที่พวกเขาอาบน้ำตัดขนให้สุนัข

พวกเขาก็มักจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมอยู่แล้ว เพราะสุนัขต้องอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าของ เรื่องของกลิ่นหอมจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทำให้เจ้าของมีความสุข ขณะที่ลูกค้าที่นำสุนัขมาใช้บริการอาบน้ำตัดขน ก็เห็นว่าการใช้น้ำหอมเป็นเรื่องที่น่าพึงพอใจ และทำให้สัตว์เลี้ยงของเธอน่ากอดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เจ้าของสุนัขที่ไม่เคยฉีดน้ำหอมให้แก่สุนัข ระบุว่าการใช้น้ำหอมน่าจะทำให้พวกมันไม่สบายตัว และเห็นว่าการออกน้ำหอมแบรนด์หรูออกมาเพื่อใช้กับสุนัขเป็นเรื่องฟุ่มเฟือยเกินไป 

ทั้งนี้ จากข้อมูลที่เปิดเผยทางเว็บไซต์ พบว่าราคาของน้ำหอมสำหรับสุนัขของแบรนด์ Dolce & Gabbana อยู่ที่ 99 ยูโร หรือราว 3,850 บาท โดยทางแบรนด์ยืนยันว่า ได้รับการรับรองว่าเหมาะสมกับการใช้กับสัตว์เลี้ยง โดยเป็นไปตามกฎเกณฑ์เครื่องสำอางปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยง และผ่านการรับรองจากสัตว์แพทย์แล้วนั่นเอง