จากภาวะเศรษฐกิจและต้นทุนที่สูงขึ้น อาจทำร้านราเมนในญี่ปุ่น ล้มละลายกว่า 100 ร้านในปีนี้
สืบเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาไปทั่วโลก บวกกับภาวะโลกร้อนที่ทำให้พืชผลทางการเกษตรลดลง ส่งผลให้ราคาสูงขึ้น จึงเป็นเหตุให้ร้านราเมนในญี่ปุ่นต้องล้มหายตายจากไปจำนวนมาก เรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผยขึ้นมาจากสำนักข่าวซินหัวรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนในวันนี้ (6 สิงหาคม 2567) ว่าจากผลสำรวจล่าสุดจากเตโกกุ ดาต้าแบงก์ บริษัทวิจัยด้านสินเชื่อของญี่ปุ่น พบมีร้านราเมนในประเทศล้มละลาย 49 แห่ง ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ หรือระหว่างเดือน มกราคม - กรกฏาคม ที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และบ่งชี้ว่า อุตสาหกรรมราเมนอาจมีร้านล้มละลายมากกว่า 100 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ โดยตัวเลขข้างต้นเป็นสถิติสูงที่สุด นับตั้งแต่ปี 2014 และเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดความกังวลทั่วทั้งภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากก่อนหน้านี้ จำนวนร้านราเมนซึ่งล้มละลายต่อปี เคยแตะจุดสูงสุดอยู่ที่ 54 แห่ง เมื่อปี 2563 และ 53 แห่ง เมื่อปี 2566
รายงานดังกล่าวได้วิเคราะห์ต้นทุนราเมนซุปกระดูกหมูในกรุงโตเกียว และพบว่า ต้นทุนการผลิตต่อชามเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% นับตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2565 ซึ่งเบื้องหลังต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น มีสาเหตุมาจากราคาต้นทุนวัตถุดิบราเมนพุ่งสูง โดยพบว่าราคาเนื้อหมู เส้นบะหมี่ และค่าสาธารณูปโภคล้วนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ร้านราเมนจำนวนมากในญี่ปุ่น ไม่สามารถรับมือกับราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
แม้แต่ร้านราเมนที่ปรับขึ้นราคาเพื่อชดเชยต้นทุน แต่กลับส่งผลให้จำนวนลูกค้าลดลงจนต้องปิดร้านและล้มละลาย และด้วยสาเหตุจากแรงกดดันในด้านต้นทุนนี้ รายงานจึงคาดการณ์ว่า จำนวนร้านราเมนล้มละลายในปีนี้ อาจพุ่งทะลุ 100 แห่ง