นักอนาคตวิทยา ทำนายว่าในปี 2030 มนุษย์จะเป็นอมตะด้วยนาโนบอต ปี 2045 AI จะฉลาดกว่ามนุษย์
ถ้าพูดถึงเรื่องอนาคตที่ยังมาไม่ถึงเราส่วนใหญ่จะนึกถึงหมอดู แต่นอกจากหมอดูแล้วยังมี นักอนาคตวิทยา ด้วยนะ ถ้าพูดถึงอนาคตวิทยา หรือการทำนายอนาคตผ่านพัฒนาการทางเทคโนโลยีแล้ว บุคคลที่น่าจะมีชื่อเสียงที่สุดในปัจจุบันคือ เรย์ เคิร์ตซ์เวล (Ray Kurzweil) นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนา AI สารพัด เคยทำงานกับ Google และเคย ทำนายอนาคต ไว้ในหลายมิติมาตั้งแต่ยุคทศวรรษ 1990 และจนถึงปัจจุบัน เมื่อเวลาผ่านไป
คำทำนาย ของเขาก็ถูกเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ โดยคำทำนายแรกๆ ในปี 1990 ที่เขาพูดตอนแรกแล้วทุกคนหัวเราะคือการระบุว่าไม่เกินปี 2000 แชมป์หมากรุกที่เก่งที่สุดจะพ่ายแพ้ต่อคอมพิวเตอร์ แน่นอน ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อ ก่อนที่ในปี 1997 แกร์รี แกสปารอฟ (Garry Kasparov) แชมป์หมากรุกระดับตำนานของรัสเซียจะโดนคอมพิวเตอร์โค่น เคิร์ตซ์เวลทำนายไว้อีกหลายเรื่อง ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้ถูกทั้งหมด แต่ก็ถูกเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น คนก็เลยจริงจังกับ คำทำนาย ของเขามาก ซึ่งที่เขาทายถูกไม่ใช่เพราะ มองเห็นอนาคต หรืออะไร แต่เขาแค่ประเมินความเร็วของพัฒนาการเทคโนโลยี และคาดเดาว่ามันมีแนวโน้มจะเปลี่ยนสังคมไปยังไง
โดยผลงานที่เป็นมาสเตอร์พีซของเขาคือหนังสือ The Singularity is Near ที่เขียนมาตั้งแต่ปี 2005 ที่น่าสนใจก็คือ ปัจจุบัน เรากำลังจะถึงหมุดหมายสำคัญจุดหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ ซึ่งก็คือคำทำนายของปี 2030 ที่คาดว่ามนุษย์จะเป็นอมตะ ซึ่งก็น่าสนใจว่าเวลาดังกล่าวคือไม่ถึง 6 ปีจากปัจจุบันเท่านั้นเอง เคิร์ตซ์เวลมองว่า ภายในปี 2030 จะมีเทคโนโลยีสำคัญเกิดขึ้น
ซึ่งคือ นาโนบอต โดยการพัฒนา AI จะทำให้พวก หุ่นยนต์จิ๋วอัจฉริยะ พวกนี้สามารถเข้าไปในร่างกายมนุษย์และเข้าไปทั้งซ่อมแซมและแก้ไขร่างกายในทุกๆ ส่วนได้ ซึ่งนั่นคือสามารถเข้าไปซ่อมแซมอวัยวะที่ไม่เคยซ่อมได้มาก่อน ไปจนถึงไปจัดการกับเซลล์มะเร็งได้แบบชิลๆด้วย หรือพูดอีกแบบ หมุดหมายของปี 2030 คือ การที่มนุษย์จะเอาชนะเงื่อนไขทางกายภาพที่เสื่อมถอยไปตามกาลเวลาได้อย่างสมบูรณ์ และทำให้มนุษย์เป็นอมตะในทางกายภาพนั่นเอง และถ้าใครสนใจอีก เคิร์ตซ์เวลยังทำนายไว้ด้วยว่า
ในปี 2045 จะมีความเปลี่ยนแปลงสำคัญเกิดขึ้น ซึ่งก็คือเกิดภาวะที่เรียกว่า Singularity หรือในบริบทปัจจุบันก็คือการที่ AI จะฉลาดกว่ามนุษย์โดยสมบูรณ์และทำการเปลี่ยนอารยธรรมมนุษย์ไปตลอดกาล แน่นอน ทุกอย่างที่ว่ามามันฟังดูเหมือนหนังหรือนิยาย 'ไซไฟ' สิ้นดี และสำหรับหลายๆ คนมันอาจฟังดูน่าหัวเราะด้วยซ้ำ แต่พอมันออกมาจากปากของคนที่ในอดีตสามารถคาดเดาหมุดหมายพัฒนาการทางเทคโนโลยีได้แม่นยำเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ มันก็เลยดูจะไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยทีเดียว