อังกฤษยกเลิก การก่อสร้างอุโมงค์ลอดใต้สโตนเฮนจ์ สร้างความยินดีและโล่งใจให้แก่ยูเนสโกเป็นอย่างยิ่ง
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเมื่อวานนี้ (1 สิงหาคม 2567) ว่า นางเรเชล รีฟส์ รมว.คลังสหราชอาณาจักร ประกาศระงับโครงการพัฒนาหลายโครงการ ซึ่งในรัฐบาลชุดก่อนหน้า รวมไปถึงโครงการสร้างอุโมงค์ถนนใกล้สโตนเฮนจ์ ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ ที่เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมด้วย นางออเดรย์ อาซูเลย์ ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก กล่าวว่า ยูเนสโกยินดีที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรชุดปัจจุบัน ของเซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ตัดสินใจยกเลิกการก่อสร้างอุโมงค์ถนนใต้สโตนเฮนจ์ ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลก หลังเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ยูเนสโกเตือนว่า สโตนเฮนจ์อาจถูกเพิ่มในรายชื่อมรดกโลกที่มีความเสี่ยง หากมีการเดินหน้าโครงการอุโมงค์ดังกล่าว สโตนเฮนจ์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกตั้งแต่ปี 2529 และการทำให้สโตนเฮนจ์ จัดอยู่ในรายชื่อมรดกโลกที่เสี่ยงอันตราย อาจถือเป็นการไม่ให้เกียรติสำหรับบางประเทศ เมื่อปีที่แล้ว อดีตนายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็ก อนุมัติการก่อสร้างอุโมงค์ถนนใกล้สโตนเฮนจ์ มูลค่า 1,700 ล้านปอนด์หรือประมาณ 77,234 ล้านบาท แม้บรรดาผู้รณรงค์เคลื่อนไหวต่อต้านอย่างหนักก็ตาม โครงการก่อสร้างอุโมงค์แห่งดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรบนถนนสายหลักไปยังตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะอังกฤษ ซึ่งมักคับคั่งเป็นพิเศษในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ ขณะที่ชาวดรูอิด ออกมาประท้วงโครงการก่อสร้างนี้เช่นกัน โดยให้เหตุผลว่า พื้นที่แห่งนี้ เป็นสถานที่เฉลิมฉลองวันวันครีษมายัน และวันเหมายัน ซึ่งเป็นวันมีช่วงเวลากลางวันยาว และสั้นที่สุดในรอบปี โดยสโตนเฮนจ์ นั้นได้รับการก่อสร้างขึ้นระหว่าง 3,000-2,300 ปีก่อนคริสตศักราช ถือเป็นอนุสรณ์สถานหินขนาดใหญ่ก่อนประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในแง่ของขนาด, การจัดวางที่ซับซ้อน และความแม่นยำทางสถาปัตยกรรม ซึ่งก่อนหน้านี้ ท่าเรือในเมืองลิเวอร์พูล ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะอังกฤษ สูญเสียสถานะมรดกโลก เมื่อปี 2564 หลังผู้เชี่ยวชาญของยูเนสโกค้นพบว่า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหม่ในเมือง ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างทางประวัติศาสตร์ของโบราณสถาน