มรดกโลกในแคนาดาถูกไฟไหม้
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้น มีการรายงานคลื่นความร้อน น้ำท่วม ไฟป่า และภัยพิบัติทางธรรมชาติอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคุกคามความอยู่รอดของมนุษย์อย่างร้ายแรง "อุทยานแห่งชาติแจสเปอร์" (Jasper National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศแคนาดา มีระบบนิเวศน์ของสัตว์และพืชที่อุดมสมบูรณ์และทุ่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ (Columbia Icefeild) ทิวทัศน์ที่สวยงามได้รับการจัดอันดับให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 2.5 ล้านคนทุกปี แต่ไฟป่าที่ลุกลามเมื่อเร็ว ๆ นี้ทำให้เมืองท่องเที่ยวได้รับความเสียหายและรอยเท้าทางประวัติศาสตร์อันล้ำค่าก็ถูกทำลาย
จากรายงานของสื่อต่างประเทศอื่นๆ พบว่าแคนาดาได้รับผลกระทบจากไฟป่าเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากลมแรง ไฟจึงลุกลามเข้าสู่เมืองเล็กๆ ชื่อ แจสเปอร์ ในระยะเวลาอันสั้น อาคารหลายแห่งถูกไฟไหม้ ทำให้ไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่ Maligne Lodge ซึ่งดำเนินธุรกิจมานานกว่า 60 ปี และโบสถ์ Jasper Anglican ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานทางสถาปัตยกรรมแบบโกธิก คาดว่า 30% ถึง 50% ของอาคารในเมืองแจสเปอร์อาจได้รับผลกระทบและได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ยังได้สั่งให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวอพยพอย่างเร่งด่วน มีนักดับเพลิงต่างชาติมากกว่า 400 คนจากออสเตรเลีย เม็กซิโก แอฟริกาใต้ ฯลฯ ได้ระดมกำลังไปยังอุทยานแห่งชาติแจสเปอร์เพื่อบรรเทาภัยพิบัติ ต่อสู้เพื่อดับไฟป่าที่โหมกระหน่ำ
อุทยานแห่งชาติ Jasper ตั่งอยู่ใน รัฐแอลเบอร์ตา (Alberta) ทางตะวันตกของแคนาดา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี 1984 นอกจากจะเป็นที่ตั้งของ "ทุ่งน้ำแข็งโคลัมเบีย" ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกแล้ว ยังเป็นที่อยู่ของกวางมูส, กวางคาริบู, หมาป่า, หมีสีเทา, คูการ์ และสัตว์ป่าอื่นๆ ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่มาริลิน มอนโร นักแสดงชาวอเมริกันในตำนานก็เคยมาที่นี่เพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ ไฟป่าในครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกเสียใจกับมรดกโลกอันอุดมสมบูรณ์ที่ต้องเสียหายไปในกองไฟ