รัฐบาลมอสโครายงานว่า อัตราการเกิดใหม่ของทารกในรัสเซีย กำลังอยู่ในขั้นวิกฤติ
ปัจจุบันนี้อัตราการเกิดใหม่ของทารกในหลายๆประเทศลดลง แต่ก็มีหลายประเทศที่กำลังอยู่ในขั้นวิกฤติเลยทีเดียว อย่างเช่นรัสเซีย โดยเป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซียเมื่อวานนี้ (28 กรกฏาคม 2567) ว่ารัสเซียเผชิญกับความท้าทายด้านประชากรหลายอย่าง นับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียต ไม่ว่าจะเป็น ประชากรสูงอายุ, จำนวนผู้ชายที่ลดลง เนื่องจากความขัดแย้งในยูเครน ทำให้พวกเขาหนีออกนอกประเทศ และอัตราเกิดต่ำที่สุดในรอบ 17 ปี อัตราการเกิดในตอนนี้ อยู่ในระดับต่ำมาก คือ เด็ก 1.4 คนต่อผู้หญิงหนึ่งคน ซึ่งเทียบได้กับประเทศในยุโรป, ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆและมันถือเป็นหายนะสำหรับอนาคตของประเทศ นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าว ใครก็ตามที่มีบุตรหลายคนถือเป็นฮีโร่ แม้เราอาศัยอยู่ในประเทศขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่ประชากรกลับน้อยลงทุกปี และวิธีเดียวที่จะรับมือกับปัญหานี้ได้ คือการเพิ่มอัตราการเกิดโดยเฉลี่ย ทั้งนี้ รัสเซียมีประชากรประมาณ 148 ล้านคน เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 2534 ส่วนตัวเลขปัจจุบันอยู่ที่ 144 ล้านคน อันเป็นผลมาจากผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และการเกิดน้อย ในช่วงทศวรรษที่ 1990 ซึ่งอัตราเกิดการของประเทศยังไม่ฟื้นตัว แม้รัฐบาลของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เสนอเงินช่วยเหลือจำนวนมากให้กับครอบครัวขนาดใหญ่ก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นล่าสุดในรัสเซีย ได้แก่ ผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จำนวนมาก, ชายชาวรัสเซียหลายแสนคนที่หลบหนีออกจากประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกระดมพลไปสู้รบในยูเครน รวมถึงการอพยพเข้ารัสเซียที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปี เมื่อปีที่แล้ว ทางด้านนักประชากรศาสตร์คาดการณ์ว่า ประชากรของรัสเซียอาจลดเหลือ 130 ล้านคน ภายในช่วงทศวรรษที่ 2040 ขณะที่ทำเนียบเครมลินชี้ว่า ประเทศอื่นต่างก็ประสบปัญหาด้านประชากรที่คล้ายคลึงกันกับรัสเซีย