ใจร้อนเกิ๊น ! ‘ลุง’ หึงโหด! ชักปืนยิงเมียรุ่นลูกสาหัส เหตุให้ยืมรถไปหาหมอ แต่ GPS บอกไปคนละทาง

เกิดเหตุการณ์สลดใจในจังหวัดอุดรธานี เมื่อชายวัย 61 ปี ใช้อาวุธปืนยิงภรรยาที่มีอายุห่างกันถึง 25 ปี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยสาเหตุเกิดจากความหึงหวงและไม่พอใจที่ภรรยาขับรถไปหาหมอ แต่ GPS บอกว่าขับไปคนละทาง! 😱

เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะทะเลาะวิวาท

เมื่อค่ำคืนวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุ 191 สภ.เมืองอุดรธานีได้รับแจ้งเหตุตทะเลาะวิวาทในครอบครัวที่บ้านพักในหมู่ 14 ต.บ้านตาด อ.เมือง โดยมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปถึงพบว่า น.ส.ต้า อายุ 36 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอกด้านขวา กระสุนฝังใน เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีทันที

ผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นสามีของผู้บาดเจ็บ นายน้อย หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ลุงน้อย” อายุ 61 ปี ซึ่งยืนรอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมอาวุธปืนลูกโม่ .38 และเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง โดยเขาให้การว่าตนเป็นข้าราชการเกษียณที่เคยทำงานที่โรงพยาบาลในเมืองอุดรธานี และได้ตกลงอยู่กินกับ น.ส.ต้า แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส

สาเหตุการยิง เริ่มจากเมื่อตนอนุญาตให้ภรรยายืมรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ไปหาหมอ แต่เมื่อเช็ก GPS พบว่าเธอขับไปคนละทางกับที่บอกไว้ โดยไปถึงตลาดหนองไฮแทนที่จะไปคลินิก ซึ่งทำให้เกิดการทะเลาะกันระหว่างทั้งคู่ ก่อนที่เขาจะเดินทางกลับมาที่บ้านพร้อมปืนเพื่อเคลียร์ปัญหา

“รักและหวงภรรยามาก รักมากก็เลยโมโหมาก และไม่ชอบคนโกหก” นายน้อยกล่าว

ลูกชายของ น.ส.ต้า เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเขากำลังอยู่ที่บ้านญาติใกล้เคียง เมื่อแม่โทรศัพท์มาบอกว่า "ลุงน้อย" พกปืนมาข่มขู่อยู่หน้าบ้าน และเมื่อเขาไปถึงก็เห็นแม่ถูกยิงแล้ว จึงรีบเข้าไปแย่งปืนเพื่อช่วยเหลือแม่

นายสุทธิพงษ์ ญาติของผู้บาดเจ็บ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อเห็นพี่สาววิ่งออกมาขอความช่วยเหลือและบอกว่า “ถูกลุงน้อยยิง” จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่และพาเธอส่งโรงพยาบาล โดยขณะนั้นพี่สาวมีเลือดออกมากและอาการสาหัส กระสุนฝังในและปอดทะลุ ต้องเจาะเลือดออกจากปอด

ความรุนแรงและการดำเนินการของตำรวจ

เหตุการณ์นี้สร้างความตกใจให้กับชาวบ้าน และเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด เนื่องจากความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง

เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนผู้ก่อเหตุ รวมทั้งพยานแวดล้อมต่าง ๆ ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป โดยจะมีการติดตามผลการรักษาของ น.ส.ต้า เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่

“เหตุการณ์นี้มันรุนแรงเกินไป อยากให้ตำรวจดำเนินการจนถึงที่สุด” ญาติผู้บาดเจ็บกล่าว

เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่เกิดจากความหึงหวงและความไม่ไว้ใจ ซึ่งสามารถเปลี่ยนชีวิตของผู้ที่เกี่ยวข้องได้ในพริบตา ขอให้ น.ส.ต้า ฟื้นฟูสุขภาพได้โดยเร็ว และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นในกรณีนี้ 💔