ไอเรื้อรัง 2 ปี นึกว่ามะเร็ง... สุดท้ายพลิกโผ! ต้นเหตุมาจาก "หม้อไฟ" มื้อเดียว
เคยได้ยินเรื่องราวของคนใกล้ตัวที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรง ทั้งที่ดูแลสุขภาพดีมาตลอด แต่เชื่อไหมว่า บางครั้งอาการเจ็บป่วยที่เราคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ อาจมีต้นเหตุมาจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราคาดไม่ถึงก็ได้
วันนี้ผมมีเรื่องราวของชายชาวจีนคนหนึ่ง ที่มีอาการไอเรื้อรังมานานกว่า 2 ปี จนเขาคิดว่าตัวเองเป็นมะเร็งปอด แต่สุดท้ายเรื่องราวกลับพลิกผัน เมื่อแพทย์พบว่า สาเหตุของอาการไอเรื้อรังนี้ มาจาก "หม้อไฟ" มื้อเดียว!
ไอไม่หายสักที... หรือจะเป็นมะเร็ง?
คุณสวี ชายวัย 54 ปี จากเมืองหางโจว ประเทศจีน เริ่มมีอาการไอเรื้อรังมานานกว่า 2 ปี แรกๆ เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าคงเป็นแค่หวัดธรรมดา แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาการไอกลับไม่หาย แถมยังมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาเริ่มกังวลว่าตัวเองอาจเป็นมะเร็งปอด จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจให้แน่ใจ
ผลตรวจที่ไม่คาดคิด
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอทำการตรวจอย่างละเอียด รวมถึงการทำ CT Scan ปอด ผลปรากฏว่า คุณหมอพบสิ่งแปลกปลอมในปอดของคุณสวี และต่อมน้ำเหลืองก็มีอาการบวม แต่สิ่งที่ทำให้คุณหมอประหลาดใจก็คือ สิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในปอดของคุณสวี ไม่ใช่เนื้องอก แต่เป็น "เศษพริก" ที่คุณสวีสำลักเข้าไปตอนกินหม้อไฟ!
เรื่องเล็กที่กลายเป็นเรื่องใหญ่
คุณหมออธิบายว่า เศษพริกที่คุณสวีสำลักเข้าไปนั้น ได้หลุดเข้าไปในหลอดลมและลงไปในปอด เศษพริกนี้ไปกระตุ้นให้เซลล์ในปอดเกิดการอักเสบ และเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดเป็นก้อนเนื้อที่คล้ายกับเนื้องอก และนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้คุณสวีมีอาการไอเรื้อรังมานานกว่า 2 ปี
บทเรียนจากหม้อไฟ
เรื่องราวของคุณสวี เป็นอุทาหรณ์เตือนใจพวกเราทุกคนว่า บางครั้งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราคิดว่าไม่เป็นอะไร ก็อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราได้ ดังนั้น เราควรใส่ใจกับทุกๆ อาการผิดปกติของร่างกาย และรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันที
และสำหรับใครที่ชอบกินหม้อไฟ ก็อย่าลืมกินอย่างระมัดระวังนะครับ เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน และหลีกเลี่ยงการพูดคุย หรือหัวเราะขณะรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันไม่ให้เศษอาหารหลุดเข้าไปในทางเดินหายใจ