สองสามีภรรยาหายตัวขณะ ล่องเรือข้ามแอตแลนติก ก่อนพบเป็นศพบนแพยางชูชีพ
ข่าวคู่รักถูกพบเป็นศพบนแพชูชีพนี้ ได้ถูกเปิดเผยขึ้นมาหลังจากสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นางซาราห์ แพ็ควู้ด ชาวสหราชอาณาจักร และนาย เบรตต์ คลิบเบอรี สามีชาวแคนาดา โดยสารเรือยอชต์ชื่อว่า ธีรอส (Theros) ความยาว 13 ม. ออกจากท่าเรือเมืองโนวาสโกเชีย ของแคนาดา เมื่อ 11 มิ.ย. เพื่อเดินทางไปยังหมู่เกาะอะโซร์ส (Azores) ซึ่งอยู่ห่างออกไป 3,228 กม. โดยคาดว่าจะใช้เวลา 21 วัน แต่ในวันที่ 18 มิ.ย. เจ้าหน้าที่กลับได้รับแจ้งว่า สามีภรรยาคู่นี้ขาดการติดต่อและหายตัวไป และความพยายามค้นหาหลังจากนั้นก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ก่อน ศพของทั้งคู่ถูกพบอยู่บนแพชูชีพขนาด 3 ม.
ซึ่งถูกคลื่นซัดมาเกยชายฝั่งเกาะเซเบิล (Sable Island) ใกล้เมืองโนวาสโกเชีย โดยจนถึงตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่า เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาระหว่างการเดินทาง จนทำให้ทั้งสองต้องมามีจุดจบแบบนี้ หนึ่งในทฤษฎีที่เจ้าหน้าที่สืบสวนตั้งเอาไว้คือ เรือยอชต์ของนางแพ็ควู้ดกับนายคลิบเบอรี อาจไปชนเข้ากับเรือขนสินค้าระหว่างทาง แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สุดท้ายทั้งคู่จำเป็นต้องสละเรือมาลงแพชูชีพ และเสียชีวิตบนนั้น ก่อนที่แพจะลอยมาถึงเกาะเซเบิล ในวันที่ 12 ก.ค. ด้านหน่วยยามฝั่งและกองทัพแคนาดาระบุว่า พวกเขาไม่พบซากเรือ หรือร่องรอยของเรือยอชต์ที่สามีภรรยาคู่นี้โดยสารเลย ทั้งนี้ นายแพ็ควู้ด วัย 54 ปี กับ นายคลิบเบอรี วัย 70 ปี
พบกันโดยบังเอิญที่กรุงลอนดอนในปี 2558 ตอนที่นายคลิบเบอรี วิศวกรเกษียณอายุ เตรียมบริจาคใต้ให้แก่น้องสาวของเขา ก่อนที่ทั้งคู่จะจัดพิธีแต่งงานบนเรือยอชต์ของทั้งสองที่ประเทศแคนาดาในปีต่อมา และจัดพิธีสมรสผูกข้อมือที่สโตนเฮนจ์ ในปี 2560
ทั้งคู่ทำช่องยูทูบร่วมกัน ชื่อว่า Theros Adventures ซึ่งพวกเขาโพสต์คลิปวิดีโอเพื่ออธิบายว่า พวกเขาจะเดินทางไปยังเกาะอะโซร์สด้วยเรือยอชต์ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์, แบตเตอรี่และเครื่องยนต์ไฟฟ้าที่นำมาจากรถยนต์ได้อย่างไร เรากำลังทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อแสดงให้เห็นว่า คุณสามารถเดินทางโดยไม่ต้องเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลได้ นายคลิบเบอรีกล่าว