กล้วย ผลไม้ดีมีประโยชน์ แต่กินมากไปอาจอันตราย!
กล้วยเป็นผลไม้ที่มีราคาไม่แพง หาซื้อง่าย และอุดมไปด้วยใยอาหาร ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี แต่การกินกล้วยมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไต
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไตในไต้หวันได้แบ่งปันกรณีศึกษาของผู้ป่วยหญิงวัย 60 ปี ที่มีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคไต ผู้ป่วยมีปัญหาท้องผูก จึงกินกล้วยวันละ 1 ผลเพื่อช่วยให้ขับถ่ายสะดวก แม้ว่าแพทย์จะเตือนผู้ป่วยอยู่เสมอว่าไม่ควรกินกล้วยมากเกินไป (ควรจำกัดการกินไว้ที่ 1 ผลต่อสัปดาห์) แต่ผู้ป่วยไม่ได้ฟังคำเตือน และยังคงกินกล้วยวันละ 1 ผล
ในที่สุด ผู้ป่วยก็มีอาการหมดสติและถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลฉุกเฉิน แพทย์ตรวจพบว่าอัตราการเต้นของหัวใจของผู้ป่วยอยู่ที่ 42 ครั้งต่อนาที (ปกติควรอยู่ที่ 60-100 ครั้งต่อนาที) และระดับโพแทสเซียมในเลือดสูงถึง 7.2 mEq/L (ปกติควรอยู่ที่ 3.5-5.0 mEq/L)
กล้วยมีโพแทสเซียมสูง การกินกล้วยมากเกินไปอาจทำให้ระดับโพแทสเซียมในเลือดสูง (ภาวะไฮเปอร์คาเลเมีย) ภาวะไฮเปอร์คาเลเมียอาจส่งผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต
ผู้ป่วยโรคไตควรจำกัดการกินกล้วยไว้ที่ 1 ผลต่อสัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์ บุคคลทั่วไป ควรจำกัดการกินกล้วยไว้ที่ 5 ผลต่อวัน ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน หัวใจเต้นผิดจังหวะ หากพบอาการเหล่านี้ควรไปพบแพทย์ทันที
กล้วยเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ แต่ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม ผู้ป่วยโรคไตควรระมัดระวังเป็นพิเศษ การกินกล้วยมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้