หนุ่มเลี้ยงกุ้งเข่าแทบทรุด!จับกุ้งขาย เจอปลาหมอคางดำเต็มบ่อ
หนุ่มเลี้ยงกุ้งเข่าแทบทรุด!จับกุ้งขาย เจอปลาหมอคางดำเต็มบ่อ
กรณีปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ จนกลายเป็น “เอเลี่ยนสปีชีส์” สิ่งมีชีวิตต่างถิ่นแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและทำลายสัตว์น้ำประจำถิ่น ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมทั้งบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำของเกษตรกร สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวประมงอย่างหนักใน 16 จังหวัด โดยเฉพาะจังหวันครศรีธรรมราช
ล่าสุดวันที่ 17 ก.ค.67 ที่บ่อเลี้ยงกุ้ง หมู่ 4 ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ของนายกรวิทย์ ยอดแก้ว อายุ 49 ปี เกษตรกรเลี้ยงกุ้ง ที่เพิ่งเปิดบ่อจับกุ้งขาย โดยพบว่าในบ่อกุ้งมีเพื่อนบ้านลงไปทอดแห ใช้สวิงซ้อนจับปลาหมอคางดำ ที่ลอยเต็มบ่อ แม้ว่าเมื่อวานนี้มีชาวบ้านลงบ่อจับปลาหมอคางดำไปแล้วน้ำหนักกว่า 1 ตัน
นายกรวิทย์ เจ้าของบ่อกุ้ง เผยว่า ตนประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้งตามโครงการส่งเสริมของรัฐบาลมานานหลายปี สำหรับบ่อนี้มีความกว้าง 2.5 ไร่ โดยปล่อยกุ้งเลี้ยง 2 แสนตัว ตามปกติเมื่อถึงระยะเวลาจับกุ้งจะได้กุ้งจำนวนไม่น้อยกว่า 4 ตัน จะมีกุ้งใหญ่ขนาด 30 - 35 ตัว/กก.สำหรับครั้งนี้ ตนและพ่อตั้งใจว่าจะเลี้ยงกุ้งใช้ระยะเวลา 4 เดือนครึ่ง เพื่อให้ได้กุ้งน้ำหนัก 28 ตัวต่อกิโลกรัม โดยลงทุนจ่ายค่าอาหารเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาค่าอาหารก็แพงขึ้นกระสอบละ 1,060 บาท
กระทั้งครบกำหนดจับกุ้ง ตนต้องตกใจมาก เพราะมีปลาหมอคางดำอยู่เต็มบ่อ ส่วนกุ้งทั้งบ่อได้แค่ 2.6 ตัน ถือว่าน้อยกว่าปกติมาก อย่างน้อยที่สุดควรจะได้กุ้ง 4 ตันขึ้นไป แต่ครั้งนี้บอกตรงๆว่าใจหายืเพราะการเลี้ยงกุ้งต้นทุนสูง ราคาอาหารแพง ราคากุ้งก็ถูกกว่าปกติ โดยขนาดกุ้ง 28 - 30 ตัวกิโลกรัม ราคาข่ยสูงสุดแค่ 188 บาท
ทั้งที่ควรจะได้ราคากิโลกรัมละ 200 บาทขึ้นไป ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหากสรแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ จึงอยากให้ทางราชการช่วยเหลือเยียวยา เกษตรกรที่ประสบปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำโดยด่วนที่สุด