หลังนักศึกษาเสียชีวิต 6 คนในการประท้วง ทำบังกลาเทศสั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศ
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงธากา ประเทศบังกลาเทศในวันนี้ (17 กรกฏาคม 2567) รัฐบาลบังกลาเทศ สั่งปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศอย่างไม่มีกำหนด หลังมีนักศึกษา 6 คน เสียชีวิตในการประท้วงที่ลุกลาม
ซึ่งมีการระดมกองกำลังกึ่งทหาร เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย โดยโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา มหาวิทยาลัย และโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามทุกแห่งในบังกลาเทศ ได้รับคำสั่งให้ปิดทำการ จนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม หลังเกิดการประท้วงต่อต้านระบบโควตารับราชการของรัฐบาล เป็นเวลานานหลายสัปดาห์ กระทั่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา การประท้วงทวีความรุนแรงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อผู้ประท้วง และกลุ่มนักศึกษาที่สนับสนุนรัฐบาล โจมตีอีกฝ่ายด้วยการขว้างอิฐและแท่งไม้ไผ่ ขณะที่ตำรวจสลายการชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตา และกระสุนยาง ด้านนายเอ็ม เอ คาอีร์ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการบังกลาเทศ กล่าวว่า รัฐบาลออกคำสั่งปิดสถาบันการศึกษาทุกแห่ง เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ซึ่งมีผลครอบคลุมไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ ด้วย โดยความรุนแรงครั้งล่าสุด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 400 คน
และมีผู้เสียชีวิตรวมอย่างน้อย 6 ราย อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ประท้วงยังคงรวมตัวชุมนุมในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ และฝ่าฝืนคำร้องขอก่อนหน้านี้ของนายกรัฐมนตรีชีค ฮาสินา ผู้นำบังกลาเทศ และศาลฎีกาบังกลาเทศ ที่ต้องการให้นักศึกษายุติการประท้วง และแยกย้ายกลับเข้าชั้นเรียน ขณะเดียวกัน นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) เรียกร้องให้รัฐบาลบังกลาเทศ ปกป้องผู้ประท้วงจากภัยคุกคามหรือความรุนแรงทุกรูปแบบ เนื่องจากการประท้วงอย่างสันติ ถือเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
และรัฐบาลควรปกป้องสิทธิเหล่านั้น ทั้งนี้ นักศึกษาจำนวนมากในบังกลาเทศ รวมตัวประท้วงเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุติโควตา “เลือกปฏิบัติ” สำหรับงานภาครัฐ รวมถึงการสำรองตำแหน่งงานราชการ เฉพาะสำหรับบุตรหลานของวีรบุรุษที่ต่อสู้เพื่อเอกราช ซึ่งนักวิจารณ์หลายคนกล่าวว่า ระบบดังกล่าวเอื้อประโยชน์ต่อลูกหลานของกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลเพียงเท่านั้น