โดนรวบแล้ว หนุ่มโหดฆ่าชิงรถแล้วขับไปชิงทอง 80 บาท อ้างช่วยครอบครัว
หลังจากมีข่าวชิงทองไป 80 บาทเมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ ล่าสุด เมื่อวานนี้ (8 กรกฏาคม 2567) ตอนค่ำๆ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 และ สืบสวนภูธรจังหวัดเชียงใหม่ คุมตัวนายนิพิฐพนธ์ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุชิงทองในห้างดังไป โดยก่อนหน้านั้นได้ก่อเหตุฆ่าชิงรถ ไปสอบสวนที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ซึ่งถูกตั้งให้เป็นศูนย์ปฏิบัติการคลี่คลายในคดีนี้ ล่าสุด พลตำรวจโท กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และพลตำรวจตรีธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กำลังสอบสวนผู้ต้องหา ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจอีกส่วนหนึ่ง อยู่ระหว่างวางแผนกู้ศพชายที่ถูกระบุว่าเป็นเจ้าของรถที่ใช้ในก่อเหตุชิงทอง ถูกฆ่าและนำไปโยนทิ้งลงหน้าผา ด้านหลังศาลาริมทาง ก่อนถึงน้ำตกวังบัวบาน พลตำรวจโท กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า หลังจากผู้ต้องหาก่อเหตุแล้ว ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ครั้งแรกมีผู้ต้องสัยเป็นว่าที่ร้อยโทสุเทพ บ้านอยู่แม่แตง ตำรวจได้ติดตามจนกระทั่งทราบตัวผู้ต้องหาตัวจริง คือนายนิพิฐพนธ์ บ้านอยู่อ.ดอยสะเก็ด พร้อมติดตามทองที่ไปชิงทรัพย์ ได้คืนมา 70 บาท อาวุธปืน 1 กระบอก ชุดที่คนร้ายสวมไปก่อเหตุ ซึ่งจากข้อสังเกตที่เมื่อกลางวันที่เจอเลือดในรถ
ได้มีการซักถามกระทั่งผู้ต้องหารับสารภาพว่า มีปัญหาเรื่องการเงินที่บ้าน จึงวางแผนหาเงินมาแล้วประมาณครึ่งปี โดยวันนี้ได้ออกจากบ้านตั้งแต่ตี 4 นำรถของตัวเองมาจอดไว้ที่กาแล ตรงผาลาด ถนนสุเทพ จากนั้นเดินตามเส้นทางธรรมชาติประมาณ 2 กม.มาถึงจุดที่เจอจอดอยู่และในรถมีคราบเลือด หลังจากนั้นได้โทรศัพท์เรียกรถรับจ้าง (แมกซิม) ซึ่งว่าที่ร้อยโทสุเทพ ชัยนันตา อายุ 48 ปี มีอาชีพเป็นเทรนเนอร์ ออกกำลังกายและอาชีพเสริมขับรับจ้าง ซึ่งโทรเรียกให้มารับ พอผู้ต้องหาขึ้นหลังรถก็ใช้อาวุธปืนกล็อก 19 ยิงที่ท้ายทอย หลังจากยิงเสร็จได้ย้ายศพนายสุเทพจากฝั่งคนขับมานั่งฝั่งผู้โดยสารแทน ขับรถไปจอดก่อนลากศพทิ้งป่าข้างทางเพื่ออำพราง ซึ่งจุดประสงค์ที่ฆ่าว่าที่ร้อยโท สุเทพ นั้นก็เพื่อนำรถของผู้ตายไปก่อเหตุ กระทั่งห้างเปิดประมาณ 10 โมงเช้าก็เข้าไปชิงทรัพย์ แล้วนำรถกลับมาไว้ที่เดิม ก่อนเดินไปตามเส้นทางธรรมชาติเพื่อกลับไปเอารถของตัวเองคือยาริสสีขาวที่จอดไว้ที่กาแล จากนั้น นำทองไปตระเวนขายในเมืองเชียงใหม่ 5 ร้าน โดย 3 ร้านในเมืองไม่มีใครรับซื้อเพราะเจ้าของร้านทองเห็นข่าวและมีตราทองออโรร่าอยู่จึงไม่รับซื้อ แต่มี 2 ร้านที่ อำเภอดอยสะเก็ด และสันกำแพงรับซื้อไป10 บาท เหลือทอง 70 บาท กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำคนเดียว ที่ก่อเหตุเพราะครอบครัวมีปัญหาการเงิน