ศาลฎีกาญี่ปุ่นตัดสินว่า กฎหมายบังคับทำหมัน ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ (4 กรกฏาคม 2567) ว่าศาลฎีกาญี่ปุ่น มีคำตัดสินให้กฎหมายสุพันธุศาสตร์ที่เลิกใช้แล้ว ซึ่งบังคับให้ประชาชนหลายพันคนต้องทำหมัน ระหว่างปี 2491-2539 ขัดต่อรัฐธรรมนูญของประเทศ และเปิดทางให้เหยื่อสามารถเรียกร้องค่าชดเชยได้ หลังจากการต่อสู้คดีนานหลายปี ศาลฎีกาของญี่ปุ่นในกรุงโตเกียว ระบุว่า การที่รัฐหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบในการจ่ายค่าชดเชยความเสียหาย ถือเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง และเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง
รัฐบาลญี่ปุ่นยอมรับว่า ประชาชนราว 16,500 คน ถูกบังคับให้ทำหมันภายใต้กฎหมายดังกล่าว ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อป้องกันประชากรเด็กที่มีคุณภาพต่ำ และมีชาวญี่ปุ่นอีกประมาณ 8,500 คน ที่ถูกทำหมันโดยได้รับความยินยอม แต่ทนายความชี้ว่า กรณีข้างต้นมีแนวโน้มเป็นการบังคับโดยพฤตินัย เนื่องจากบุคคลในกลุ่มนี้ ต้องเผชิญกับแรงกดดัน โดยจำนวนการผ่าตัดทำหมันในญี่ปุ่น ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ 1980 และ 1990 ก่อนที่กฎหมายบังคับทำหมัน จะถูกยกเลิกเมื่อปี 2539 ทว่าประวัติศาสตร์อันมืดมน ก็กลายเป็นประเด็นร้อนในปี 2561 เมื่อผู้หญิงวัย 60 ปีคนหนึ่ง ฟ้องร้องรัฐบาลโตเกียว เกี่ยวกับขั้นตอนเข้ารับการผ่าตัดทำหมัน ในตอนที่เธอมีอายุ 15 ปี
ส่งผลให้หลายคดีความในลักษณะเดียวกัน ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง แม้รัฐบาลญี่ปุ่นแสดงความขอโทษอย่างสุดซึ้ง ภายหลังการผ่านกฎหมายในปี 2562 ที่กำหนดให้จ่ายเงินก้อนเดียว 3.2 ล้านเยนหรือประมาณ 725,000 บาท แก่เหยื่อทุกราย อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายที่ยังมีชีวิตอยู่ กล่าวว่า จำนวนเงินดังกล่าว ไม่เพียงพอที่จะชดเชยความทุกข์ทรมานของพวกเขา และยื่นเรื่องดำเนินคดีต่อศาลต่อไป