ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ! "ปู มัณฑนา" ไม่จ่ายหนี้ อ้าง "ลูกหมี" ทำชื่อเสียงเสียหาย

              ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ! "ปู มัณฑนา" ไม่จ่ายหนี้ อ้าง "ลูกหมี" ทำชื่อเสียงเสียหาย ทั้งๆ ที่ยอมลดหนี้ให้เหลือ 1.4 ล้านแต่ว่าต้องจ่ายทั้งหมด ปูบอกถึงมีก็ไม่จ่าย บอกทำไมต้องจ่ายเพราะอีกฝ่ายทำชื่อเสียงพัง ฝ่ายลูกหมีเสนอจะขอโทษผ่านรายการต่างๆ 4 รายการ ถ้าไม่รับเงื่อนไขก็กลับไปเริ่มต้นใหม่ที่ 2 ล้านเหมือนเดิม มั่นใจคดีไม่พลิก

               ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ก.ค.67 ที่ผ่านมา ทางด้าน “ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรี” พร้อมกับ “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” และ “ทนายกุ้ง อำนวยพร มณีวรรณ์” ยังคงปักหลักกันอยู่ที่ สน.ทองหล่อ ตลอดทั้งวัน หลังจากแจ้งความอดีตนางเอกชื่อดัง “ปู มัณฑนา หิมะทองคำ” กู้ยืมเงินแล้วไม่คืน อีกทั้งยังจ่ายเช็คเด้ง 2 ล้าน ทวงแล้วก็หายเงียบไปเลย วันนี้ก็มีการไกล่เกลี่ยกันเป็นครั้งแรก  โดยอดีตนางเอกชื่อดังมาพร้อมกับสามีนักการเมืองชื่อดัง “หาญส์ ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ” และ “ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช” พร้อมกับ “ทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช” โดยพยายามไกล่เกลี่ยถึงสองรอบแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ โดยรอบแรกนั้น ปูบอกยอมจ่ายแค่ 1.4 ล้าน แต่ลูกหมีเสนอที่ 1.6 ล้าน แล้วจะจบ แล้วต่างฝ่ายต่างไปใช้ชีวิตของตัวเอง

               ทางทนายเดชา ได้เผยว่า เรื่องอัตราดอกเบี้ยที่บอกว่าโหดนั้น ทางฝ่ายลูกหนี้เป็นคนเสนอมาเอง เจ้าหนี้ไม่มีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ แต่เมื่อลูกหนี้ไปกู้ยืมเงินเขาก็ต้องจ่ายให้ตรงเวลา ไม่ใช่บอกว่าไม่จ่าย เพราะชื่อเสียงเสียหายนั้น ก็เอาเป็นเรื่องๆ ไป จ่ายให้หมดก่อนดีกว่า

               ส่วนลูกหมี ก็เผยว่า ตนพูดตามความจริงทุกอย่าง เพราะเป็นผู้เสียหายอยากจะได้เงินคืน ส่วนที่เขาบอกว่าจ่ายช้าแค่วันเดียว อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นข่าวใหญ่ จะดูเอกสารทั้งหมดไหม เพราะมีหลักฐานทั้งหมดอยู่ในมือ ถ้าจะแฟร์ๆ ก็พบกันที่ครึ่งทาง 1,600,000 จะจบดีมาก

               ในเวลาต่อมา ทางด้าน "ปู มัณฑนา" พร้อม "ทนายประมาณ" ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชน หลังจากไกล่เกลี่ยรอบสองไม่สำเร็จ ยอมรับว่ามีเงินแต่ไม่จ่าย เพราะชื่อเสียงเสียหายป่นปี้หมดแล้ว ลั่นอีกฝ่ายจะรับผิดชอบอย่างไร ถ้าวันนี้อีกฝ่ายแจ้งข้อหาปู ก็จะทำการฟ้องกลับในข้อหาหมิ่นประมาทด้วย

               อย่างไรก็ตาม ทางฝั่ง "ลูกหมี" และ "ปู มัณฑนา" ก็นัดไกล่เกลี่ยอีกรอบในวันที่ 19 ก.ค. นี้ เผื่อว่าจะไกล่เกลี่ยลงตัว ยังไงก็ต้องรอดูผลกันต่อไป ว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี้คดีจะพลิกหรือไม่