พบเศษขนนกยูงอินเดียขาว คาดว่าถูกสัตว์อื่นกินไปแล้ว
ใครจะคิดว่านกยูงสวยๆบางสายพันธุ์นั้น จะเป็นพวกเอเลียนสปีชีส์ในบ้านเรา จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพ นกยูงอินเดียสีขาว กำลังหากินร่วมกับนกยูงไทยในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จนหลายคนมีความกังวลในเรื่องการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์จนเกิดการปนเปื้อนทางพันธุกรรม ทำนกยูงไทยสูญพันธุ์ ทำให้ต่อมาทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานีและตาก ได้ประกาศปิดการท่องเที่ยวบริเวณหอดูสัตว์โป่งช้างเผือก เพื่อประสานงานกับนายสัตวแพทย์และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ดําเนินการค้นหาและเคลื่อนย้าย นกยูงสายพันธุ์อินเดียและนกยูงที่คาดว่าเป็นสายพันธุ์ผสมออกจากพื้นที่
ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (นักอนุรักษ์ กังวลพบ นกยูงอินเดียเผือก ที่ห้วยขาแข้ง หวั่นทำนกยูงไทยสูญพันธุ์) ล่าสุด ทางเพจเฟซบุ๊ก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้โพสต์ข้อความระบุว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 67 นายเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาต หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เปิดเผยว่า กรณีช่างภาพถ่ายภาพนกยูงอินเดียและนกยูงพันธุ์ผสมได้ที่บริเวณหอดูสัตว์หอนกยูงบริเวณโป่งช้างเผือกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เป็นการรายงานต่อเนื่องนั้น ตามที่ ขสป.ห้วยขาแข้งได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการป่าไม้และสัตว์ป่า จำนวน 4 คน และเจ้าหน้าที่จุดสกัดที่ 006 โป่งช้างเผือกจำนวน 2 คน เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนหน่วยพิทักษ์ป่าวังไผ่
เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนหน่วยพิทักษ์ป่ายางแดง เจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง รวมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจำนวน 20 คน ดำเนินการค้นหานกยูงดังกล่าว พร้อมทั้งโรยอาหารบริเวณเส้นทางหากินและวางกรงดักเพื่อดักจับนั้น จากการซุ่มสังเกตการณ์บนหอดูสัตว์หอนกยูงบริเวณโป่งช้างเผือก พบว่า ไม่พบนกยูงตัวสีเขียวที่คาดว่าเป็นพันธุ์ผสมตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2567 ไม่พบนกยูงอินเดียสีขาวตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2567 เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนได้เดินสำรวจบริเวณใกล้เคียง เพื่อค้นหานกยูงทั้ง 2 ตัว ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนพบเศษขนของนกยูงอินเดียสีขาว พร้อมทั้งมีรอยเลือดแต่ไม่พบซากนกยูงตัวดังกล่าว คาดว่าอาจถูกทำร้ายหรือกินโดยสัตว์ผู้ล่าไม่ทราบชนิด