โชเฟอร์หนุ่มอ้างเหตุที่เข้าห้องสาว เอาของไปให้และเล่นกับแมว

    จากข่าวสาวตื่นมากลางดึกเจอหนุ่มขับรถที่เรียกจากแอปอยู่ในห้อง ล่าสุดในวันนี้ (2 กรกฏาคม 2567) พ.ต.ต.ฐปพน แพงพิมพ์โล้ สว. (สอบสวน) สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต ได้เรียกผู้เสียหายและคู่กรณี มาสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สภ.ป่าตอง โดย นายวศิน (สงวนนามสกุล) คนขับรถ เผยว่า ตนยืนยันไม่ได้ทำอะไรกับผู้โดยสาร สิ่งที่ทำให้ต้นเดินตามไป คือ ของมีค่าเขาอยู่ในรถ และเขายังให้ค่าโดยสารไม่ครบ ขาดอีกประมาณ 200 บาท เป็นค่าออกนอกเส้นทางตามที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนขึ้นรถ พร้อมทั้งอ้างว่า น้องเขาเป็นคนถามว่า ว่างไหม ไปส่งที่ห้องหน่อย เดินไปนิดเดียว ซึ่งตนก็เลี้ยวรถไปจอด และยังหอบเสื้อผ้าที่ขนมาจากอีกที่หนึ่งไปให้รวมถึงกระเป๋าสะพายที่มีกระเป๋าสตางค์ไปให้ เมื่อไปถึง ก็เห็นว่าประตูไม่ได้ล็อก และปิดไม่สนิท เห็นน้องเขานอนอยู่บนเตียง เราก็เดินเข้าไปหน้าประตู แล้วเรียกเขาประมาณ 1 นาที ว่าน้องครับ เอากระเป๋าไว้ไหน จนน้องเขาตื่น แล้วบอกว่า ให้เอาไว้ปลายเตียง ซึ่งตนก็วางกระเป๋าแล้วแมวมาเล่นกับตน ตนก็เดินวนเล่นกับแมว ซึ่งที่ตนเข้าห้องได้ เพราะน้องเขาให้เข้าไป นายวศิน ยังอ้างด้วยว่า ตัวเองเล่นกับแมวอยู่ประมาณ 5 นาที โดยนั่งอยู่ที่เตียงอีกฝั่งหนึ่ง แล้วได้ยินเหมือนเสียงสะอื้น ร้องไห้ ก็นำมือไปแตะที่หัวประมาณ 2-3 ครั้ง ซึ่งตนไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าช่วยอะไรได้ก็ช่วย หลังจากนั้นก็กลับมาเล่นกับแมว

ตอนนั้นน้องเขาลุกไปเข้าห้องน้ำ แบบไม่ได้รีบร้อนอะไร ตอนนั้นยังคิดว่า ถ้าเราออกไปตอนนี้แล้วของหาย เขาจะคิดว่าเราเป็นขโมยหรือเปล่า ก็เลยรอให้น้องเขาออกมาจากห้องน้ำ เพื่อยืนยันว่า ตนจะออกไปตัวเปล่า พอเขาออกมา ก็ยังคุยกันเรื่องแมว ว่าแมวชื่ออะไร มีลูกไหม จากนั้นน้องเขาก็ไหว้ขอบคุณตน และให้กลับไปได้แล้ว ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่ได้ติดใจเรื่องค่าโดยสารอีก 200 บาท ที่ยังได้ไม่ครบแล้ว เพราะน้องเขาเมา และตนก็ไม่มีหลักฐาน ทั้งนี้ที่หอพักน่าจะมีวงจรปิด อยากจะถามว่า ตนทำให้เขารู้สึกกลัว หรือไม่ปลอดภัยตอนไหน ตนไม่ได้ไปลวนลาม หรือโดนตัวเขาเลย ตอนที่เห็นว่าจอดรถอยู่หน้าหอพัก แล้วเปิดปิดไฟ ก็เพื่อต้องการปลุกเขา เปิดให้ไฟให้แยงตา โดยเราก็ไม่รู้เลยว่า หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาแล้ว จะมีสติแค่ไหน แต่ยืนยันว่า ไม่ได้ทำอะไรเขาเลย ตนก็อยากขอโทษที่เข้าไปในห้อง โดยไม่ได้เช็กว่า เขาเมาขนาดไหน เป็นคนอย่างไร สร่างเมาแล้ว เขาจะลืมหรือเปล่า ด้าน น.ส.ณัชชา หลังจากเข้าพบพนักงานสอบสวน ได้ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า จะไม่ยอมความ และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด . . . เรื่องนี้ผิดด้วยกันทั้งคู่ ใครจะมากจะน้อยแล้วแต่มุมมอง