หนังสติ๊ก และความเป็นมาในประวัติศาสตร์
เชื่อว่าเด็กผู้ชายเกือบทุกคนเคยเล่นหนังสติ๊กกันมาก่อน แม้จะมีความดั้งเดิมและเรียบง่าย แต่หนังสติ๊กก็ถือเป็นอาวุธร้ายแรงหากตกอยู่ในมือของผู้เชี่ยวชาญและการฝึกฝน แหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์และพระคัมภีร์เล่าว่าเด็กชายอายุไม่เกิน 13 ปี พิชิตโกไลแอทด้วยหนังสติ๊กและก้อนหินได้อย่างไร หนังสติ๊กมีความโดดเด่นด้วยความแม่นยำสูงและความสามารถในการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกล ชายหนุ่มในหมู่เกาะแบลีแอริกมีความโดดเด่นจากคนอื่นๆ ในการใช้หนังสติ๊ก ซึ่งทำให้พวกเขากลายเป็นจุดสนใจของผู้นำและผู้บัญชาการของโลกยุคโบราณ เนื่องจากพวกเขาถูกใช้ในกองทัพหลายแห่งในฐานะทหารรับจ้าง
โดยมีการอ้างอิงที่เก่าแก่ที่สุดย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสต์ศักราช เมื่อชาวคาร์ธาจิเนียนใช้สิ่งเหล่านี้ระหว่างสงครามซิซิลีครั้งที่สอง จากนั้นชาวกรีกก็ใช้มันอีกครั้งระหว่างสงครามพิวนิกกับชาวโรมัน โดยเฉพาะกับกองทหารราบเบา เลส์ เวลิตส์ เมื่อชาวโรมันบุกหมู่เกาะแบลีแอริก พวกเขาต้องคลุมเรือด้วยผ้าบุขนสัตว์เพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหายหรือบาดเจ็บ และหลังจากที่โรมันเข้ายึดครองทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พวกเขาใช้เครื่องยิง (หนังสติ๊ก) ของหมู่เกาะแบลีแอริกในการรบ
รวมถึงการรบเพื่อบุกกัลเลีย (ฝรั่งเศสและบริเวณโดยรอบ) ที่นำโดยจูเลียส ซีซาร์ พวกเขาติดตั้งอุปกรณ์ง่ายๆ ซึ่งประกอบด้วยโล่ หอก และเครื่องยิงสามอัน หนึ่งอันมีเชือกสั้นสำหรับระยะใกล้ ขนาดกลางอันที่สองสำหรับระยะกลาง และอันยาวอันที่สามสำหรับระยะไกล กระสุนทำจากหินหรือตะกั่ว พวกเขาเตรียมพร้อมก่อนทำการต่อสู้โดยขัดเงา และขึ้นรูปกระสุนเพื่อลดแรงต้านในอากาศ ทำให้พวกเขาสามารถทำความเร็วมหาศาลที่อาจสูงถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บางครั้งน้ำหนักของมันสูงถึง 500 กรัมซึ่งทำให้เป็นอาวุธร้ายแรงที่สามารถทำลายชุดเกราะและโล่ของศัตรูได้ ภารกิจหลักของกองทหารแบลีแอริกคือการคุกคาม ข่มขู่ และสร้างความเสียหายมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั่นเอง