สิงคโปร์คาดว่าการกำจัดคราบน้ำมันที่เกาะเซนโตซา ต้องใช้เวลา 3 เดือน
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวซินหัวรายงานจากประเทศสิงคโปร์ ในวันนี้ (26 มิถุนายน 2567) ว่านางเกรซ ฟู่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมของสิงคโปร์ ได้กล่าวว่า การทำความสะอาดคราบน้ำมันที่ไหลรั่วออกมาจากเรือนั้น บริเวณชายหาดตันจงและชายหาดปาลาวัน ของเกาะเซนโตซา น่าจะใช้เวลานานประมาณ 3 เดือน ทั้งนี้ เหตุน้ำมันรั่วไหลเกิดขึ้น หลังเรือขุดของเนเธอร์แลนด์ชนกับเรือบังเกอร์ของสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้น้ำมันรั่วไหลกระจายสู่พื้นที่ชายฝั่งตอนใต้ของสิงคโปร์ รวมถึงเกาะเซนโตซา ภายในเวลาไม่กี่วันต่อมา ทางด้านแถลงการณ์โดยองค์การท่าเรือและกิจการทางทะเลแห่งสิงคโปร์ ได้ระบุ ว่าหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนระดมบุคลากร เพื่อลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจทำความสะอาดมากกว่า 700 คน
โดยมีการจัดเก็บทรายและเศษขยะปนเปื้อนน้ำมันจากชายหาดที่ได้รับผลกระทบ มากกว่า 550 ตันแล้ว ขณะที่ภารกิจทำความสะอาดขั้นถัดไป จะมุ่งเน้นการกำจัดคราบน้ำมันที่ติดอยู่ในบางพื้นที่ ซึ่งเข้าถึงยาก เช่น แนวกันคลื่นและเขื่อนกันคลื่น นอกจากนี้ องค์การท่าเรือและกิจการทางทะเลแห่งสิงคโปร์ และหน่วยงานอื่นอีกหลายแห่ง กำลังเฝ้าติดตามผลกระทบระยะยาว ในพื้นที่ซึ่งมีความเปราะบางด้านความหลากหลายทางชีวภาพอยู่ . . . จะเห็นได้ว่าทุกครั้งที่มีเหตุน้ำมันรั่วไหลลงทะเล จะส่งผลมากมายทั้งสภาพแวดล้อมและความยุงยากในการกำจัดหรือทำความสะอาดนั่นเอง