คดีสะใภ้ฆ่าแม่ผัวในอินเดีย การตัดสินประหารชีวิตและเบื้องหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ
ปัญหาความขัดแย้งระหว่างลูกสะใภ้กับแม่ผัวเป็นเรื่องที่แก้ไขยากมาตั้งแต่อดีต และบางครั้งก็อาจถึงขั้นมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น ที่อินเดียเกิดเหตุการณ์ที่ลูกสะใภ้ใช้เคียวฟันแม่ผัวจนเสียชีวิต ผู้หญิงวัย 24 ปีในท้องถิ่นได้ทะเลาะอย่างรุนแรงกับแม่ผัววัย 50 ปี จนในที่สุดเธอใช้เคียวฟันแม่ผัวมากกว่า 95 ครั้ง จนแม่ผัวเสียชีวิต เมื่อถูกจับเธอยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุ โดยอ้างว่าแม่ผัวมักจะคอยก่อกวนและทำร้ายเธอเมื่อสามีไม่อยู่บ้าน และบอกว่าเหตุที่ทำเช่นนั้นเพราะทนไม่ไหว และเปิดเผยว่าผู้ที่ยุให้เธอฆ่าแม่ผัวคือพ่อผัวของเธอเอง โดยพ่อผัวต้องการแต่งงานใหม่ จึงให้เครื่องมือและเงินแก่เธอเพื่อเป็นการจูงใจ
ศาลท้องถิ่นได้พิจารณาคดีอีกครั้ง และตามหลักฐานที่พบลายนิ้วมือของผู้ก่อเหตุบนเครื่องมือสังหาร และบาดแผลที่รุนแรงบนร่างของผู้ตาย ผู้พิพากษาตัดสินว่าผู้ต้องหามีความผิดฐานฆาตกรรมและตัดสินประหารชีวิตเธอ ส่วนพ่อผัวที่ถูกกล่าวหาว่ายุยงให้ลูกสะใภ้ก่อเหตุนั้นเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอจึงถูกปล่อยตัว
รายงานจากสื่ออินเดียกล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นที่เขตเรวา รัฐมัธยประเทศ ผู้หญิงวัย 24 ปีชื่อ คันชาน เกิดทะเลาะกับแม่ผัววัยประมาณ 50 ปี ชื่อ ซาโรจ ในบ้านของพวกเขา คันชานโกรธมากจึงใช้เคียวฟันแม่ผัวมากกว่า 95 ครั้ง เพื่อนบ้านที่ได้ยินเสียงการต่อสู้รีบมาที่บ้านของทั้งสองคน หลังจากเคาะประตูหลายครั้งแต่ไม่มีการตอบกลับ จึงตัดสินใจพังประตูเข้าไปดู และพบคันชานกำลังทำร้ายซาโรจอย่างโหดร้าย พวกเขารีบจับตัวคันชานและแจ้งตำรวจ สามีของคันชานเมื่อกลับมาถึงบ้านก็รีบพาแม่ไปโรงพยาบาล แต่ซาโรจบาดเจ็บสาหัสเกินไปและเสียชีวิตในที่สุด
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนคดี คันชานยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุ โดยบอกว่าแม่ผัวมักจะคอยก่อกวนและทำร้ายเธอเมื่อสามีไม่อยู่บ้าน หลายวันก่อนเกิดเหตุทั้งสองก็ทะเลาะกันเพราะแม่ผัวไม่ชอบที่เธอออกจากบ้านหรือคุยกับคนในหมู่บ้าน ในวันเกิดเหตุเมื่อเกิดการทะเลาะกันอีกครั้ง คันชานบอกว่าเธอทนไม่ไหวจึงใช้เคียวฟันแม่ผัว
แต่เหตุการณ์ก็มีความซับซ้อนมากขึ้นเมื่อคันชานบอกว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ฆาตกรรมนี้คือพ่อผัวของเธอ วาลมิก โดยเขาได้ให้เงิน 4,000 รูปี และเคียวที่ใช้ในการก่อเหตุแก่เธอ เพื่อยุยงให้เธอฆ่าแม่ผัว เพราะเขาต้องการแต่งงานใหม่
ศาลท้องถิ่นได้พิจารณาคดีนี้อีกครั้ง อัยการ วิคาส ทวีเวดี กล่าวว่า เครื่องมือที่ใช้ก่อเหตุมีลายนิ้วมือของคันชานอย่างชัดเจน และรายงานการชันสูตรศพยืนยันว่าร่างของผู้ตายมีบาดแผลรุนแรงหลายแห่ง ผู้พิพากษาจึงตัดสินประหารชีวิตคันชานในข้อหาฆาตกรรม ส่วนวาลมิกพ่อผัวที่ถูกกล่าวหาว่ายุยงให้ลูกสะใภ้ก่อเหตุเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอจึงถูกปล่อยตัว