ตำนานเงินปากผี จากที่ต่างๆ
เคยคิดว่าตำนานเรื่องเงินปากผีมีแต่ในบ้านเราหรืออย่างมากก็ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงเราแถวๆนี้ แต่จริงๆแล้วเงินปากผีมีประวัติความเป็นมายาวนานนับพันปี ตั้งแต่สมัยกรีกโรมัน มีความเชื่อว่าผู้ที่เสียชีวิตแล้วจะต้องถูกพาตัวไปพิพากษาที่ยมโลก โดยมีชายแก่แจวเรือจ้างนามว่าคารอน (Charon) เป็นคนคอยแจวเรือพาคนตายข้ามฝั่งไปส่งที่หน้าประตูนรก ค่าจ้างในการเดินทางนี้ถูกเรียกกันว่า ของคารอน (Charon’s obol) คนตายที่สามารถนั่งเรือของคารอนได้ จะต้องเป็นผู้ที่ถูกฝังหรือเผาศพอย่างเป็นพิธีการ และที่สำคัญต้องมีเงินปากผีเพื่อจ่ายค่าเดินทาง ความเชื่อนี้ได้แผ่ไปไกลทั่วทั้งยุโรป จึงเป็นที่มาของประเพณีการนำเหรียญทองแดง 1 เพนนีวางไว้ที่ตาของคนตาย
สำหรับประเทศไทยนั้น ตามความเชื่อของคนไทยในสมัยโบราณ มักจะนำเงินพดด้วง เหรียญบาท หรือเหรียญสลึงมาใส่ไว้ในปากศพ โดยจุดประสงค์หลักของเงินปากผี ก็เพื่อให้ผู้ล่วงลับมีเงินใช้ในปรโลก หรืออีกด้านหนึ่งในสมัยก่อน การใส่เงินปากผีนั้นเป็นการให้ค่าจ้างแก่สัปเหร่อที่นำศพไปเผา เพื่อเป็นการสะดวกหากเจ้าภาพเกิดเบี้ยวเงินค่าจ้างในภายหลัง เงินในปากศพก็จะกลายเป็นค่าจ้างของสัปเหร่อไป ส่วนทางฝั่งฮินดูก็มีความเชื่อในเรื่องของการนำเงินและข้าวสารใส่ลงไปในปากของคนตายเช่นกัน เพื่อให้คนตายเอาไปใช้ในภายภาคหน้า
ทางชาวเผ่าสิงโพ ชนเผ่าหนึ่งในประเทศพม่า จะจัดการแต่งตัวศพให้เรียบร้อย แล้วนำเนื้อหมู เหล้า ข้าวเซ่น พร้อมด้วยเงินใส่เข้าไปในปากของคนตาย ซึ่งหากผู้ตายเป็นหัวหน้าเป็นที่เคารพนับถือ จะมีการนำหินแก้วใส่ไว้ใต้รักแร้ข้างละเม็ดแล้วจึงนำศพใส่โลง นอกจากนี้ด้านพิธีศพของชาวจีนก็ได้มีการนำเงินอีแป๊ะใส่ไว้ในปากของศพด้วยเช่นกัน นั่นเอง