กัน จอมพลัง บุกตามคดีช่วย ด.ญ.11ถูกสามีใหม่ใช้หนังสติ๊กยิงจนตาบอด
กัน จอมพลัง บุกตามคดีช่วย ด.ญ.11 ขวบ ชาวพม่า ถูกสามีใหม่ ชาวพม่าเช่นกัน ของยาย ใช้หนังสติ๊กยิงตาบอดขณะที่ผู้ก่อเหตุพาเพื่อนตามมาท้าทายถึงโรงพัก กัน จอมพลัง อดไม่ได้เดินปรี่เข้าหาพร้อมด่ายับเป็นต่างด้าว อย่ามาใหญ่ในแผ่นดินไทย
พร้อมแจ้งความประกอบอาชีพสงวนขายโรตีอย่างผิดกฎหมายอีกกระทง ด้านตำรวจดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด จับยายเข้าคุกแล้วส หลังพยายามข่มขู่ ให้ถอนแจ้งความ ขณะที่เด็กหญิงผ่าดวงตาแล้ว รอผลแพทย์ 11 ก.ค.นี้
วันที่ 23 มิ.ย.67 หลังจากที่เพจเฟสบุ๊คของ”กัน จอมพลัง ช่วยสู้”ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ผมกำลังไปสุรินทร์ ตอนนี้กำลังมีคนไปคุกคามเคสผม แม่ขอให้ "กัน จอมพลัง" ช่วยลูกสาวอายุ 11 ปี ถูกผัวใหม่ของยาย เอาหนังสติ๊กจ่อยิงตาน้องจนตาบอดสนิท เนื่องจากลูกสาวมาฟ้องแม่ว่าตา บีบหน้าอก ลูบหน้าลูบแขน ตอนแม่ไม่อยู่ แม่จึงโทรไปฟ้องยาย แต่ยายไม่เชื่อ แล้วพาผัวใหม่ของยาย บุกมาบ้าน พร้อมกับพังประตูบ้าน ก่อนที่ผัวใหม่ยายจะกระทืบแม่
ส่วนยายพยายามเอามีดเข้ามาจะแทงแม่ หลานเข้าไปถ่ายคลิปเหตุการณ์ผัวใหม่ยายจึงถูกเอาหนังสติ๊กจ่อยิงใส่ตาน้องจนบอดสนิท แต่ยายกลับไปบอกกับโรงเรียนว่าน้องแกล้งตาบอด ผ่านไป 1 เดือน มีชายชาวพม่ามาข่มขู่ที่บ้าน ให้ถอนแจ้งความและไม่ให้อยู่ใน จ.สุรินทร์ ถ้ายังอยู่จะไม่อแค่ตาบอด แถมมีคลิปเสียงยายติดต่อพี่ชายพม่า อ้างเป็นผู้มีอิทธิพลท้องที่ให้เอาเงิน 10000 ไปให้เจ้าหน้าที่เอายามายัดแม่ ผมรับปากช่วย บ่าย 3 ถึง สภ.พนมดงรัก
ล่าสุดเวลา 15.00 น.ที่ สภ.พนมดงรัก ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ “กัน จอมพลัง”พร้อมทีมงานได้เดินทางมาถึง พร้อมกับ เหยื่อผู้เคราะห์ราย คือ ด.ญ.ประทุมทอง อายุ 11 ปี และมารดาคือ นางมเลอา นอนไม อายุ 28 ปี ชาวพม่า และได้มีการซักถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวมทั้งอาการของน้องอยู่ด้านล่างหน้า สภ.พนมดงรัก พร้อมทั้ง จนท.ตำรวจ ระหว่างนั้นนายสุที อายุ 32 ปี ชาวพม่า ซึ่งเป็นสามีใหม่ของนางแก้ว แม่ของนางมเลอาฯและเป็นยายของเด็กหญิงเคราะห์ร้าย ได้ขับขี่รถ จยย.ซาเล้งพ่วงข้างขายโรตี มาพร้อมกับเพื่อนชายคนสนิทชาวพม่า
คนที่เคยพากันไปข่มขู่แม่เด็กหลังก่อเหตุ มาถึงที่ถนนหน้า สภ.พนมดงรัก พร้อมกับได้ชี้ไม้ชี้มือมาทางสองแม่ลูกที่กำลังยืนคุยกับกันจอมพลังอยู่ ระหว่างนั้นกันจอมพลัง ไม่พอใจหลังทราบว่าผู้ก่อเหตุกล้าตามมาถึงที่ กัน จอมพลัง ไม่รอช้า ได้เดินปรี่เข้าไปหาพร้อมกับด่านายสุทีและเพื่อนของนายสุที ด้วยถ้อยคำที่ไม่พอใจ ที่ชาวพม่าทั้ง 2 คน มีพฤติกรรมที่ท้าทาย ไม่เกรงกลัวกฏหมายบ้านเมืองไทย ทั้งที่มาอาศัยอยู่ในเมืองไทยและโกรธอย่างรุนแรงที่ทำให้เด็กหญิงอายุ 11 ขวบต้องตาบอดอย่างไม่น่าให้อภัยได้ ซึ่งนายสุทีผู้ก่อเหตุพยายามแก้ตัวว่าไม่ได้ชี้หน้า และไม่ได้ตั้งใจใช้หนังสติ๊กยิงตา ด.ญ.ก็ตาม เป็นเพียงลูกหลงก็ตาม ซึ่งกันจอมพลังพยายามซักถามชาวพม่าว่าทำไม่ต้องทำร้ายเด็กและผู้หหญิงทั้งที่มาอาศัยในประเทศไทยต่างๆนาๆสักพักใหญ่ ก่อนที่กันจอมพลังจะได้แจ้งความดำเนินคดีกับ 2 ชาวพม่าที่มาประกอบอาชีพสงวนของคนไทยอย่างผิดกฏหมาย จากนั้นกันจอมพลัง ได้เดินขึ้น สภ.พนมดงรัก เพื่อเข้าพบกับ พ.ต.อ.นพดล พินิจอักษร ผกก.สภ.พนมดงรัก พร้อมสอบถามความคืบหน้าของคดี ซึ่ง ผกก.สภ.พนมดงรักก็ให้คำตอบว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการดำเนินคดีกับนางแก้วและนายสุทีไปแล้วในหลายข้อหา โดยเฉพาะความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายสาหัส และตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ซึ่ง จนท.ตำรวจได้ไประงับเหตุ และจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีทันที ส่วนเด็กหญิงได้มีการส่งตัวไปรักษาที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ที่ กทม.และได้มีการผ่าตัดแก้วตา ด้านขวา 1 ข้าง ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลยืนยันจากทางแพทย์ในวันที่ 11 ก.ค.67 นี้ว่าตาบอดหรือไม่ ส่วนนางแก้วหลังจากก่อเหตุเมื่อวันที่ 15 พ.ค.67 และได้ถูกดำเนินคดี จนท.ตำรวจก็ได้ปล่อยตัวกลับไป ระหว่างรอดำเนินคดีตามกรอบกฏหมาย แต่นางแก้ว กลับไปข่มขู่แม่ของเด็กหญิงเคราะห์ร้าย เป็นการทำผิดเงื่อนไข จนท.ตำรวจจึงได้ใช้อำนาจตามกฏหมายไปจับกุมและควบคุมตัวไปฝากขังตามกฏหมาย เพราะมีพฤติการณ์ข่มขู่ผู้เสียหาย ส่วนนายสุที ก็ยังไม่ได้ถูกคุมตัวเพราะอยู่ระหว่างดำเนินคดี และยังไม่มีพฤติการณ์ข่มขู่และยังไม่ได้หลบหนี
เครดิตภาพ:suphan @ surin



















