รัฐบาลบังคลาเทศสั่งตุนยาต้านพิษ หลังชาวบ้านถูกงูกัดเพิ่มขึ้น
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงธากา ประเทศบังคลาเทศ ในวันนี้ (24 มิถุนายน 2567) ว่าศูนย์สุขภาพและโรงพยาบาลทุกแห่งในบังกลาเทศได้รับคำสั่งให้กักตุนยาต้านพิษเอาไว้ให้มากขึ้น ภายหลังจากมีรายงานว่ามีผู้ป่วยที่ถูกงูกัดเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ ทางด้าน นพ.ซามันตา ลาล เซน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนนำเหยื่อที่ถูกงูกัดส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด โดยโรงพยาบาลในแถบชนบทของบังคลาเทศได้รายงานว่า มีผู้ถูกงูกัดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะงูแมวเซาอินเดีย งูพิษที่เคยถูกประกาศให้สูญพันธุ์ไปเมื่อปี 2545 ที่อาศัยอยู่ในเอเชียใต้ ส่งผลให้เกิดประเด็นร้อนในโซเชียลมีเดียในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา งูสายพันธุ์นี้กินสัตว์จำพวกหนูเป็นอาหาร พวกมันอยู่ใกล้ถิ่นฐานของมนุษย์และพื้นที่เกษตรกรรม โดยเฉพาะในฤดูเก็บเกี่ยว การศึกษาเมื่อปี 2566 เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากการถูกงูกัดประมาณ 7,000 รายทุกปีในบังคลาเทศ ขณะที่เหยื่อบางรายรอดชีวิตเพราะได้รับยาต้านพิษอย่างรวดเร็ว นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า งูแมวเซาอินเดียที่มักจะอาศัยอยู่ในพื้นที่แห้งแล้ง ได้ปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่แตกต่างจากเดิมได้ดี และขณะนี้ได้แพร่กระจายไปกว่า 25 เขตในบังคลาเทศแล้ว ด้านองค์กรอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศว่างูกัดเป็นโรคเขตร้อนที่ถูกละเลยมากที่สุดโรคหนึ่งเลยทีเดียว และได้ขอให้มีการแก้ปัญหานี้ในลำดับแรกหากทำได้ . . . ถือว่าเป็นภัยคุกคามจากสัตว์อีกชนิดหนึ่งก็ว่าได้ ที่มีอันตรายถึงตาย