อิสราเอลพบซากเรือและสิ่งของ อายุกว่า 3,000 ปี นอกชายฝั่ง
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ในวันนี้ (21 มิถุนายน 2567) ว่า เอเนอร์จีน บริษัทพลังงานที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน และดำเนินงานนอกชายฝั่งอิสราเอล ค้นพบซากเรือและโบราณวัตถุ บริเวณก้นทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ลึกลงไปมากกว่า 1 ไมล์ ดูเหมือนว่าเรือลำนี้จะจมลงหลังเผชิญกับภาวะวิกฤติ ไม่ว่าจะเป็นเพราะพายุ หรือการโจมตีของโจรสลัด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงยุคสัมฤทธิ์ตอนปลาย” นายยาคอบ ชาร์วิต หัวหน้าหน่วยเดินเรือของไอเอเอ กล่าวในแถลงการณ์ ทั้งนี้ ซากเรือดังกล่าวถูกพบเมื่อปีที่แล้ว ห่างจากชายฝั่งทางตอนเหนือของอิสราเอล ประมาณ 90 กิโลเมตร
และเจ้าหน้าที่ประเมินว่า มันน่าจะมีอายุย้อนกลับไปถึงช่วงศตวรรษที่ 14 หรือศตวรรษที่ 13 ก่อนคริสตกาล หรือประมาณ 3,300 ปีก่อน ด้านนายคาร์นิต บาฮาร์ตัน หัวหน้าฝ่ายสิ่งแวดล้อมของเอเนอร์จีน กล่าวว่า ทีมงานของบริษัทที่ทำการสำรวจท้องทะเล พบโถและเหยือกจำนวนมาก กองอยู่บริเวณก้นทะเล นับเป็นการค้นพบที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง ขณะที่ชาร์วิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ตำแหน่งที่มีการค้นพบซากเรือ ซึ่งอยู่ไกลออกไปในทะเล แสดงให้เห็นว่า นักเดินเรือในสมัยโบราณ สามารถระบุทิศทางและแล่นเรือไปยังชายฝั่งต่าง ๆ ได้ โดยใช้ตำแหน่งของดวงดาว และดวงอาทิตย์ โดยไอเอเอ ระบุว่า เอเนอร์จีน ดำเนินปฏิบัติเก็บกู้โบราณวัตถุบางส่วนแล้ว ซึ่งจะมีการนำเสนอต่อสาธารณชนในเร็วๆนี้ . . . ถือเป็นการค้นพบสิ่งที่มีอายุเป็นพันๆปีอีกครั้งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว