ยูเอ็นจี้!หยุดส่งอาวุธให้อิสราเอล!
ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติเรียกร้องให้รัฐและบริษัทต่างๆ ยุติการส่งอาวุธไปยังอิสราเอลโดยทันที ไม่เช่นนั้นจะเสี่ยงต่อการรับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน
"การโอนถ่านอาวุธและกระสุนไปยังอิสราเอลอาจก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเสี่ยงต่อการสมรู้ร่วมคิดของรัฐในอาชญากรรมระหว่างประเทศ รวมถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติกล่าวเมื่อเย็นวันพฤหัสบดี โดยย้ำข้อเรียกร้องให้หยุดการส่งอาวุธโดยทันที
สอดคล้องกับคำเรียกร้องล่าสุดจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนและผู้เชี่ยวชาญอิสระของสหประชาชาติให้รัฐต่างๆ ยุติการขาย การโอน และการเบี่ยงเบนอาวุธ กระสุน และอุปกรณ์ทางการทหารอื่นๆ ไปยังอิสราเอล ผู้ผลิตอาวุธที่จัดหาให้อิสราเอล ซึ่งรวมถึง BAE Systems, Boeing, Caterpillar, General Dynamics, Lockheed Martin, Northrop Grumman, Oshkosh, Rheinmetall AG, Rolls-Royce Power Systems, RTX และ ThyssenKrupp ควรยุติการโอนถ่ายอาวุธด้วยแม้จะดำเนินการภายใต้ใบอนุญาตส่งออกที่มีอยู่ก็ตาม
" บริษัทเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะสมรู้ร่วมคิดในการละเมิดสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง โดยการส่งอาวุธ ชิ้นส่วน ส่วนประกอบ และกระสุนให้กับกองกำลังอิสราเอล" ผู้เชี่ยวชาญกล่าว ความเสี่ยงนี้ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นจากคำตัดสินล่าสุดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศที่สั่งให้อิสราเอลหยุดการโจมตีทางทหารในราฟาห์โดยทันที โดยได้ตระหนักว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เป็นเีื่องน่าเชื่อถือ รวมถึงคำขอที่ยื่นโดยอัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศเพื่อขอหมายจับผู้นำอิสราเอลในข้อหาอาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
"ในบริบทนี้ การส่งอาวุธอย่างต่อเนื่องไปยังอิสราเอลอาจถูกมองว่าเป็นการให้ความช่วยเหลืออย่างรู้ชัดเจนสำหรับการปฏิบัติการที่ขัดต่อสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และอาจส่งผลให้มีกำไรจากความช่วยเหลืออิสราเอลดังกล่าว"
"การยุติกาส่งอาวุธต้องรวมถึงการโอนถ่านทางอ้อมผ่านประเทศตัวกลางที่กองกำลังอิสราเอลอาจใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการโจมตีฉนวนกาซาที่กำลังดำเนินอยู่"
ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติกล่าวว่า บริษัทอาวุธต้องดำเนินการตรวจสอบความระมัดระวังด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบและเป็นระยะๆ เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ของตนจะไม่ถูกนำไปใช้ในลักษณะที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า "อาวุธเป็นตัวเริ่มต้น รักษา ขยาย และยืดเยื้อความขัดแย้งด้วยอาวุธ รวมถึงการกดขี่รูปแบบอื่นๆ ดังนั้น ความเพียบพร้อมของอาวุธจึงเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นในการกระทำอาชญากรรมสงครามและการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงบริษัทอาวุธเอกชนด้วย"
พวกเขากล่าวว่าการโจมตีทางทหารของอิสราเอลที่กำลังดำเนินอยู่นั้นมีลักษณะเป็นการโจมตีพลเมืองและโครงสร้างพื้นฐานโดยไม่เลือกหน้าและไม่สมส่วน รวมถึงการใช้ระเบิดและอาวุธเพลิงอย่างกว้างขวางในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น รวมถึงการทำลายและสร้างความเสียหายแก่โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของพลเมือง เช่น ที่อยู่อาศัยและที่พักพิง สุขภาพ การศึกษา น้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขอนามัย การโจมตีเหล่านี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 37,000 รายในฉนวนกาซาและมีผู้บาดเจ็บ 84,000 ราย ในจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเหล่านี้ ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้หญิงและเด็ก
"ปัจจุบัน เด็กๆ ในฉนวนกาซาเป็นกลุ่มเด็กที่สูญเสียอวัยวะมากที่สุดในโลกเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัสในสงคราม ปฏิบัติการเหล่านี้ยังส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรงอีกด้วย"