เพิ่งรู้ว่าคนเราสามารถป่วย เพราะเฟอร์นิเจอร์ได้
ข่าวที่เฟอร์นิเจอร์ทำให้คนป่วยได้นั้น เกิดขึ้นในสิงคโปร์ โดยสื่อท้องถิ่นของสิงคโปร์ได้ออกมาเผยว่า ครอบครัวของนายซ่ง ฮงจุน นักธุรกิจวัย 52 ปี ซื้ออพาร์ตเมนต์ขนาดประมาณ 160 ตารางเมตรเมื่อปีที่แล้ว จากนั้นเขาได้จ้างบริษัทตกแต่งภายในเข้ามาตกแต่ง และทั้งครอบครัวที่มีสมาชิกรวม 4 คนประกอบด้วย เขา ภรรยา ลูกสาวคนโต และลูกชายคนเล็กได้เข้าอยู่เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา แต่แล้วหลังย้ายเข้าไปอยู่อพาร์ตเมนต์นี้ไม่นาน ลูกสาวคนโตวัย 8 ขวบ ก็รู้สึกไม่สบาย ตาแห้ง เจ็บคอ และอาการอื่นๆ จากนั้นไม่นานทั้งนายซ่งและภรรยาก็เริ่มล้มป่วยด้วยอาการคล้ายกับลูกสาว โดยภรรยามีอาการเจ็บคอจนเสียงหายนาน 2 สัปดาห์ นายซ่งเห็นท่าไม่ดีรีบพาทั้งครอบครัวไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย ซึ่งทางแพทย์ได้วินิจฉัยว่า พวกเขาทั้งสี่คนได้รับสารฟอร์มาลดีไฮด์ในระดับสูง จึงทำให้เกิดอาการป่วยเหล่านี้ หลังจากนั้นนายซ่งรีบติดต่อกับทางบริษัทตกแต่งภายในเพื่อส่งพนักงานมาทดสอบสารดังกล่าวในบ้านทันที และผลการตรวจพบสารฟอร์มาลดีไฮด์ และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายบนเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน จำนวนรวม 36 ชิ้น โดยมีเฟอร์นิเจอร์เข้าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 5 ชิ้นเท่านั้น โดยตู้เก็บของในห้องลูกชาย มีความเข้มข้นของสารฟอร์มาลดีไฮด์สูงถึง 4.8 ซึ่งสูงกว่าขีดจำกัดมากถึง 60 เท่า หลังจากพยายามเจรจากับบริษัทตกแต่งภายในหลายครั้งเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ทางบริษัทได้เสนอเงินให้ครอบครัวนายซ่งย้ายไปเช่าโรงแรมในระหว่างทำการรื้อถอนเฟอร์นิเจอร์ แต่ข้อเสนอนั้นก็ถูกปัดตก เพราะจำนวนเงินไม่พอเท่าที่พวกเขาต้องการ ท้ายที่สุดเจ้าของบ้านจึงเตรียมฟ้องบริษัทตกแต่งภายในดังกล่าวให้รับผิดชอบอย่างถึงที่สุด ทั้งนี้ สารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) เป็นสารเคมีไม่มีสี ติดไฟได้ มีกลิ่นฉุน มักพบในเฟอร์นิเจอร์จากไม้อัด แผ่นฉนวนกันเสียง และวัสดุตกแต่งอื่นๆ โดยเฟอร์นิเจอร์ที่เพิ่งผลิตเสร็จใหม่ จะปล่อยฟอร์มาลดีไฮด์ที่มีความเข้มข้นสูงสุด ควรปล่อยทิ้งไว้ในห้องที่ระบายกลิ่นได้ดีอย่างน้อย 12 ชั่วโมง หากสูดดมสารฟอร์มาลดีไฮด์แค่เพียงเล็กน้อยเป็นเวลานาน อาจทำให้ระคายเคืองต่อดวงตาและจมูก ส่งผลให้มีน้ำมูกไหลตลอดเวลา บางทีอาจทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง อีกทั้งในกรณีที่ร้ายแรงอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้นั่นเอง . . . นับว่าเป็นภัยใกล้ตัวที่เราๆมักนึกไม่ถึงกัน เพราะเฟอร์นิเจอร์มีอยู่ทุกที่ในบ้านนั่นเอง