นักวิทย์ฯชี้ หากหิมะบนหิมาลัยลดลง อาจกระทบความมั่นคงทางน้ำ
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ในวันนี้ (18 มิถุนายน 2567) ว่านักวิทยาศาสตร์เตือนว่า ประชากรหลายล้านคนที่ต้องอาศัยน้ำ ซึ่งละลายมาจากหิมะบนเทือกเขาหิมาลัย จะเผชิญกับความเสี่ยงที่ร้ายแรงมาก จากการขาดแคลนน้ำในปีนี้ เนื่องจากหิมะตกน้อยที่สุดครั้งหนึ่ง โดยธารน้ำแข็งที่ละลายเป็น 1 ใน 4 ของแหล่งน้ำทั้งหมดในลุ่มแม่น้ำหลัก 12 แห่ง ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาหิมาลัย
“นี่เป็นการแจ้งเตือนแก่นักวิจัย, ผู้กำหนดนโยบาย และชุมชนปลายน้ำ” นายเชอร์ มูฮัมหมัด จากศูนย์ระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาภูเขาแบบบูรณาการ กล่าว “จำนวนหิมะสะสมที่ลดลงและระดับของหิมะที่ผันผวน ส่งผลต่อความเสี่ยงการขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะปีนี้” เนื่องจากหิมะและน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัย เป็นแหล่งน้ำสำคัญสำหรับผู้คนประมาณ 240 ล้านคนในพื้นที่ และอีกประมาณ 1,650 ล้านคนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงกับแม่น้ำ ที่ไหลผ่านจากหุบเขาลงสู่เบื้องล่าง
แม้ระดับหิมะจะผันผวนในแต่ละปี แต่นักวิทยาศาสตร์มองว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทำให้ปริมาณน้ำฝนที่ไม่แน่นอน และรูปแบบสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป และการคงอยู่ของหิมะบนพื้นต่ำกว่าปกติร้อยละ 18.5 ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดเป็นอันดับ 2 ในรอบ 22 ปีที่ผ่านมา เป็นรองเพียงสถิติปี 2561 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 19 นอกจากเนปาล องค์กรไอซีไอเอ็มโอดียังร่วมมือกับรัฐบาลประเทศอื่นๆ อาทิ อัฟกานิสถาน บังกลาเทศ ภูฏาน จีน อินเดีย เมียนมา และปากีสถาน ล้วนเตือนว่า การสังเกตการณ์และคาดการณ์ มีข้อบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในด้านเวลาและความเข้มข้นของกระแสน้ำ โดยมีหิมะเป็นส่วนสำคัญในการรับรองว่ามีน้ำเพียงพอตามฤดูกาลหรือไม่นั่นเอง . . . นี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลพวงจากภาวะโลกร้อนที่ทุกประเทศกำลังเจออยู่ในขณะนี้