รัฐแคนซัสฟ้องไฟเซอร์ เหตุปกปิดความเสี่ยงของวัคซีนโควิด
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองวิชิทอ รัฐแคนซัส สหรัฐอเมริกา ในวันนี้ (18 มิถุนายน 2567) ว่า คำฟ้องระบุว่า คำแถลงของผู้ผลิตวัคซีน ละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐแคนซัส
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการระยุในคำฟ้อง เกี่ยวกับการเรียกร้องค่าเสียหาย นายคริส โคบาค อัยการสูงสุดรัฐแคนซัส และเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกัน ได้กล่าวว่า ไฟเซอร์แถลงข้อความที่ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดหลายครั้ง เพื่อหลอกลวงสาธารณชนเกี่ยวกับวัคซีน ในช่วงเวลาที่ชาวอเมริกันต้องการความจริง โดยเนื้อหาในคำฟ้องระบุต่อไปว่า หลังมีการเริ่มใช้วัคซีน เมื่อต้นปี 2564 ไฟเซอร์ปกปิดข้อมูลว่า การฉีดวัคซีนมีความเชื่อมโยงกับภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ การแท้งบุตร การอักเสบในและรอบหัวใจ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
ทางด้านไฟเซอร์ออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่าการรับรองคุณภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 นั้นถูกต้อง และเป็นไปตามหลักการทางวิทยาศาสตร์และวิจารณ์ว่า การฟ้องร้องลักษณะนี้ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ย้อนกลับไปเมื่อเดือน มิ.ย. 2564 องค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) สั่งให้ผู้ผลิตวัคซีนป้องดันโรคโควิด-19 เพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ไว้บนฉลากของวัคซีน อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงดังกล่าวพบได้น้อย และส่วนใหญ่มักเกิดกับเด็กวัยรุ่นและชายหนุ่ม ขณะที่ผลการศึกษา 21 ชิ้น โดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ เมื่อปี 2566 สรุปว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไม่เกี่ยวข้องกับการแท้งบุตร อย่างไรก็ตาม อัยการรัฐแคนซัสอ้างว่า ไฟเซอร์ให้ข้อมูลเท็จว่า วัคซีนสำหรับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ดั้งเดิม ที่บริษัทพัฒนาร่วมกับบริษัท ไบโอเอ็นเทค จากเยอรมนี รักษาประสิทธิภาพในการต่อต้านเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดกลายพันธุ์ และไม่เพียงแค่ป้องกันความเจ็บป่วย แต่ยังช่วยป้องกันการแพร่เชื้ออีกด้วย . . . และแล้วยิ่งเวลาผ่านไปผลพวงของวัคซีนโควิดก็เริ่มแสดงผลให้เห็นกันมากขึ้นเรื่อยๆ