อียู เตรียมตั้งกำแพงภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจีน สูงเกือบ 40%
เป็นการรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในวันนี้ (13 มิถุนายน 2567) ว่า ฝ่ายบริหารอียูในกรุงบรัสเซลส์ ดำเนินการสอบสวนเงินสนับสนุนจากรัฐ เมื่อปีที่แล้ว เพื่อปกป้องผู้ผลิตในยุโรป ที่เผชิญกับการนำเข้าสินค้าจีนจำนวนมาก ซึ่งมีราคาถูกกว่า ส่งผลให้รัฐบาลปักกิ่งไม่พอใจอย่างมาก ด้านกระทรวงพาณิชย์จีนวิจารณ์การตัดสินใจดังกล่าวว่าเป็นพฤติกรรมกีดกันทางการค้าอย่างโจ่งแจ้ง ล่าสุด คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เสนอให้มีการขึ้นภาษีสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ในจีนเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฏาคม 2567 นี้ โดยบริษัท บีวายดี บริษัท จีลี่ และบริษัท เอสเอไอซี จะถูกปรับขึ้นภาษีเป็น 17.4%, 20% และ 38.1% ตามลำดับ ซึ่งอียูระบุเสริมว่า ตัวเลขภาษีข้างต้น ขึ้นอยู่กับระดับเงินอุดหนุนจากรัฐที่บริษัทต่างๆได้รับ
นอกจากนี้ ผู้ผลิตรถอีวีในจีน ที่ร่วมมือกับอียู จะเผชิญกับภาษีนำเข้า 21% ส่วนผู้ผลิตที่ไม่ได้ร่วมมือกับอียู จะต้องเสียภาษีนำเข้าสูงถึง 38.1% ซึ่งภาษีในส่วนนี้ เพิ่มจากภาษีนำเข้า 10% ในปัจจุบัน ซึ่งทางอีซี ชี้ให้เห็นถึงการอุดหนุนที่ไม่เป็นธรรมในจีน ซึ่งก่อให้เกิดภัยคุกคามของความเสียหายทางเศรษฐกิจ ต่อบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอียู อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า การตัดสินใจของอียู มีความเสี่ยงที่จะสร้างความขัดแย้งทางการค้า และทำให้ปัญหาดังกล่าวทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน นายหลิน เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวเตือนว่า จีนจะใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมด เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของประเทศอย่างมั่นคง นับว่าทางจีนได้เจอกำแพงภาษีจากทางอียูเข้าอีกทางแล้ว