จับสึกหลวงพี่ฉันบวบ (อีกราย)
เป็นเรื่องราวฉาววงการสงฆ์อีกครั้งหลังจากตร.ไซเบอร์รวบหลวงพี่ฉันบวบคาวัดจ.สระแก้ว โชว์หวิวผ่านแอปพลิเคชั่น X ตรวจค้นกุฏิพบอุปกรณ์การเสพยาและรูปในมือถือก่อนนำตัวไปสึก เจ้าตัวรับสารภาพมีรสนิยมทางเพศแบบชายกับชาย ตอนจำวัดอยู่กทม. มีการนัดพบเพื่อร่วมเพศกันเป็นบางครั้ง โดยในวันนี้ (12 มิถุนายน 2567) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท. พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดสระแก้ว ที่ 94/2567 ลงวันที่ 11 มิ.ย.2567 เข้าตรวจค้นกุฏิวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เข้าจับกุม พระวรุตม์ อายุ 24 ปี พระลูกวัด พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ในความผิดฐาน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ถ้าผู้กระทำความผิดนำเข้าสื่อลามกอนาจารแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยจากการสืบสวนกรณีพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเผยแพร่สื่อลามกอนาจารในสื่อโซเชียลมีเดีย เอ็กซ์ Red Skull โพสต์เนื้อหาพร้อมลงรูปสามเณร โดยพบว่าเป็นบัญชีผู้ใช้ชื่อ หลวงพี่แครอท @hlwngphi863743 ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น เอาไว้ส่องครับ บัญชีผู้ใช้ได้มีการโพสต์ภาพลามกอนาจารจำนวนหลายภาพ และพบบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Warut Warut” ซึ่งผู้ใช้เป็นคนเดียวกันกับผู้ใช้บัญชีเอ็กซ์ เอาไว้ส่องครับ และมีการโพสต์ภาพถ่ายคู่กับสามเณร อีกทั้งภาพและวิดีโอลามกอนาจารการร่วมเพศของชายกับชาย จึงเกรงว่าสามเณรอาจจะถูกล่วงละเมิดทางเพศ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนจนทราบว่าเจ้าของบัญชี X(Twitter) ดังกล่าวคือ นายวรุตม์ ปัจจุบันบวชเป็นพระสงฆ์ได้มาจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับทางเจ้าหน้าที่จึงติดตามเข้าจับกุมไว้ได้พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์การเสพยาก่อนนำไปสึก จากการสอบสวน นายวรุตม์ ให้การยอมรับว่า ตนมีรสนิยมทางเพศแบบชายกับชาย ตอนที่จำวัดอยู่ในพื้นที่กทม. มีการนัดพบเพื่อร่วมเพศกันเป็นบางครั้ง ส่วนอุปกรณ์เสพยาตนเคยเสพตอนอยู่กรุงเทพฯ โดยมีคนเอามาให้ ปัจจุบันย้ายมาจำวัดอยู่ที่จ.สระแก้ว ได้เลิกเสพแล้ว ก่อนควบคุมตัวดำเนินคดีต่อไป เป็นอีกครั้งในหลายๆครั้งนับไม่ถ้วนที่เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้กับคนในผ้าเหลือง และเชื่อว่าจะยังไม่หมดไปง่ายๆในสังคมแน่นอน