นักวิทย์ฯกล่าว เราอาจได้เห็นเทคโนโลยีอัปโหลดสมอง ในศตวรรษนี้
เรื่องราวความล้ำสมัยที่ทำให้ดูเหมือนเป็นอมตะนี้เราเคยได้เห็นมาแล้วในหนังฮอลลีวู้ดหลายๆเรื่อง อย่างเช่นเรื่อง แช็ปปี้ ที่คนเราสามารถถ่ายโอนสมอง ความรู้สึกนึกคิดไปสู้ร่างอื่นได้ แล้วถ้าเรื่องทั้งหมดนี้กำลังจะเกิดขึ้นจริวล่ะ เราๆจะเชื่อกันไหม พราะว่าในวันนี้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า พวกเราทุกที่มีชีวิตอยู่กันทุกวันนี้ อาจจะมีอายุยืนยาวพอที่จะได้เห็นความเป็นไปของมวลมนุษยชาติในอนาคตได้ด้วยตัวเอง สิ่งมหัศจรรย์นี้อาจเกิดขึ้นได้จริง ด้วยเทคโนโลยี อัปโหลดสมอง ความคิด ความทรงจำ ของเราไปเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ด้วยสมมติฐานนี้อาจกล่าวได้ว่าเรายังคงมีชีวิตอยู่ต่อไป โดยกระบวนการทางเทคโนโลยีนี้มีชื่อว่า Transhumanism นั่นคือการใช้เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ช่วยกันทำให้มนุษย์มีชีวิตอมตะ ไม่ว่าในท้ายที่สุดแล้ว ชีวิตนั้นจะดำเนินต่อในร่างกายที่มีเนื้อหนังหรือในร่างหุ่นยนต์ก็ตาม โดยพื้นฐานการทำงานของกระบวนการนี้ จะก๊อปปี้ข้อมูลในสมองเราไปเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์อย่างปลอดภัย และเก็บไว้ในนั้นได้นานเกินกว่าร่างที่เป็นเนื้อหนังของเราจะอยู่รอดได้ โดยนายคลาส เวเบอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านปรัชญาจิตใจ AI และอภิปรัชญาประจำมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลียกล่าวไว้ว่า เราอาจจะเข้าใกล้ความเป็นจริงขึ้นอีกมากแล้ว เขาเชื่อว่าจะสามารถคิดค้นเทคโนโลยีที่สามารถอัปโหลดสมอง หรืออย่างน้อยก็สามารถสร้างแผนที่สมองได้ภายในทศวรรษนี้ แต่การทำแผนที่สมองนั้นเป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการ เพราะยังมีความท้าทายอีก 3 เรื่องที่ต้องทำให้สำเร็จได้ก่อน จะเริ่มกระบวนการอัปโหลด สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เทคโนโลยีอัปโหลดสมองเป็นไปได้จริง ก็คือความสามารถในการโคลนนิ่งและถ่ายโอนข้อมูลในสมองซึ่งเรายังทำไม่ได้ สุดท้ายนี้เสียงที่แตกต่างกลับออกมาว่า เทคโนโลยีนี้นั้นถ้าเกิดขึ้นได้จริงอาจจะไม่เวิร์ค เพราะในด้านของความเป็นจริง กลับมีการตั้งคำถามกลับไปว่าแล้วอยากจะมีชีวิตที่ยืนยาวขนาดนั้นเพื่ออะไรกัน ทางด้านเทคโนโลยีก็ส่วนหนึ่ง ทางด้านความเป็นจริงในชีวิตมนุษย์ก็ส่วนหนึ่ง เพราะการที่มีชีวิตยืนยาวเกินไปนั้นก็ใช่ว่ามีแต่เรื่องดีอย่างเดียวนั่นเอง