เหตุเพราะจัดการข้อมูลผู้ใช้ไม่ดีพอ ทำให้อิตาลี่ปรับเมตา 138 ล้าน
เป็นการรายงานข่าวจากสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวานนี้ (6 มิถุนายน 2567) ว่าเอจีซีเอ็มสั่งปรับเมตาเป็นเงิน 3.5 ล้านยูโร อันเป็นผลมาจากแนวปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม เนื่องจากขาดความโปร่งใสในการใช้ และจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบัญชีอินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก โดยเมตาล้มเหลวในการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้อินสตาแกรมทราบถึงนโยบายการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้าทันทีที่สมัคร และกล่าวหาเมตาว่า ระงับบัญชีเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมอย่างไม่ถูกต้อง
เมตาไม่ได้ระบุว่าพวกเขาใช้อะไรในการตัดสินระงับบัญชีเฟซบุ๊ก เช่น ระบบตรวจสอบอัตโนมัติ หรือมนุษย์ และมากไปกว่านั้นทางเมตาไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการอุทธรณ์เมื่อถูกระงับบัญชีเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม การใช้อำนาจของหน่วยงานระงับข้อพิพาทนอกศาล หรือผู้พิพากษา และกำหนดเส้นตายในการโต้แย้งเพียง 30 วัน เจ้าหน้าที่ระบุว่า เมตาได้เปลี่ยนแนวทางปฏิบัติหลังเอจีซีเอ็มเริ่มสอบสวน
อย่างไรก็ตาม เมตาได้ชี้แจงในแถลงการณ์ว่า พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจดังกล่าว กำลังพิจารณาถึงทางเลือกอื่น ๆ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 เราได้ดำเนินการปรับปรุงนโยบายหลายรายการสำหรับผู้ใช้ชาวอิตาลี เพื่อตอบสนองต่อข้อกังวลของรัฐบาล รวมไปถึงความโปร่งใสเกี่ยวกับ วิธีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการโฆษณา และได้ให้ข้อมูลและแนวทางเพิ่มเติมแก่ผู้ใช้ที่ต้องการอุทธรณ์การระงับบัญชี ทั้งนี้ เมตาย้ำว่า “เรายินดีที่จะให้ผู้มีอำนาจรับทราบถึงประสิทธิภาพของเครื่องมือของเมตา ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบัญชีของตัวเองได้อีกครั้ง นับว่าทางเมตาได้โดนปรับอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ก่อนหน้านั้นก็เคยโดนมาแล้ว