ถูกลอตเตอรี่ 47.5 ล้านไม่บอกสามี โดนฟ้องหมดตัว
หลายๆ คนใฝ่ฝันที่จะร่ำรวยเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน สิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ชอบทำก็มักจะลองเสี่ยงโชคด้วยการซื้อลอตเตอรี่ มีผู้หญิงคนหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ถูกลอตเตอรีได้รับเงินรางวัล 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 47.5 ล้านบาท) แต่เธอปกปิดความจริงไม่บอกให้สามีของเธอรู้ และหลังจากนั้นเธอก็ฟ้องหย่ากับสามีที่อยู่กันมา 25 ปี จนกระทั่งในเวลาต่อมาถึงวันที่ความจริงถูกเปิดเผยและเธอถูกฟ้องร้อง ศาลตัดสินว่าควรมอบโบนัสทั้งหมดให้กับอีกฝ่าย
เริ่มจาก ฝ่ายภรรยาคือเดนิส รอสซี ถูกรางวัลลอตเตอรี ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2539 แต่เธอไม่ได้บอกข่าวดีนี้กับสามีของเธอ โธมัส รอสซี เธอเลือกที่จะปกปิดข้อมูลและอ้างสิทธิ์ในรางวัลใหญ่ในอีก 11 วันต่อมา จากนั้นสองปีต่อมา โธมัส รอสซี ได้รับจดหมายจากบริษัทเงินรางวัล ที่เดิมตั้งใจจะส่งถึงเดนิส ทำให้เขาได้รู้เรื่องราวทั้งหมดจึงยื่นฟ้องต่อศาล
ศาลพบว่าเดนิส รอสซี ฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการเปิดเผยทรัพย์สินและกองทุน และกระทำการฉ้อโกงหรือมุ่งร้าย เพราะเธอปกปิดความจริงในเรื่องที่เธอได้รับเงินรางวัลจากการถูกลอตเตอรี จากสามีของเธอ โดยเธอยอมรับว่าเธอไม่ต้องการแบ่งเงินรางวัลให้สามี ดังนั้น ผู้พิพากษาจึงตัดสินให้เดนิสต้องจ่ายเงินให้โธมัส 66,800 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.44 ล้านบาท) ต่อปี รวมทั้งหมด 20 งวด ซึ่งรวมแล้วเท่ากับเงินรางวัลที่เธอได้รับในปีนั้น
ในเรื่องนี้ ทนายความของเดนิสชี้ให้เห็นว่าหากเดนิสเลือกที่จะซื่อสัตย์ในเวลานั้น เธออาจจะสามารถหลีกเลี่ยงการสูญเสียทรัพย์สินของเธอได้