ชึ้นค่าแรงคนงานชาเกือบเท่าตัว อาจทำอุตสาหกรรมชาทรุด
เป็นข่าวที่รายงานมาจากสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เมื่อวานนี้ (28 พฤษภาคม 2567) ว่าผู้ผลิตชาจากศรีลังกาประณามคำสั่งขึ้นค่าแรงของรัฐบาล ว่าจะทำให้ชาของประเทศไม่สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ และลดจำนวนรายรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจำเป็นสำหรับแก้ไขวิกฤติการณ์ทางการเงิน โดยอุตสาหกรรมผู้ผลิตชาซีลอนของศรีลังกามีมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือเมื่อคิดเป็นเงินไทยแล้วก็ตกอยู่ที่ 47,558 ล้านบาท และมีลูกจ้างประมาณ 615,000 คน ในแต่ละปี มีการส่งออกชาที่ผลิตในประเทศถึงร้อยละ 95 หรือประมาณ 250 ล้านกิโลกรัม
จากมาตรการดังกล่าว รัฐบาลได้สั่งให้มีการเพิ่มเงินเดือนพนักงานเป็น 1,700 รูปีศรีลังกา ต่อวันหรือประมาณ 207 บาท ขณะที่ผู้ผลิตแย้งว่า อาจทำให้ต้นทุนการผลิตชาเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 45 เลยทีเดียว ทางสมาคมผู้ปลูกชาซีลอน (PAOC) กล่าวว่า ผลกระทบจากวิกฤติการณ์ทางการเงินที่ยืดเยื้อของศรีลังกา ซึ่งเกิดจากการขาดแคลนเงินตราประเทศอย่างรุนแรง เมื่อปี 2565
ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมชาและทำให้ต้นทุนปุ๋ย เชื้อเพลิง และพลังงานมีราคาสูงขึ้นถึง 4 เท่า มาตรการนี้ไม่ยั่งยืนและไม่ยุติธรรม การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นโดยปราศจากคำปรึกษาที่เหมาะสม และจะส่งผลให้คุณภาพของชาศรีลังกาลดลง นายโรชาน ราชดูไร โฆษกพีเอโอซี กล่าว โดยกระทรวงแรงงานศรีลังการะบุว่า อุตสาหกรรมชาจะต้องปรับขึ้นเงินเดือนตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567 นี้ พร้อมเตือนว่าบริษัทผู้ทำไร่ชาที่ปฏิเสธจะปฏิบัติตาม อาจถูกรัฐบาลเข้าครอบครองกิจการก็เป็นได้ ทำให้เห็นว่าในเดือนหน้านี้จะต้องมีการขัดแย้งระหว่างหน่วยงานของรัฐกับเจ้าของไร่ชาเกิดขึ้นแน่ๆไม่มากก็น้อย