นักวิทย์บอก น้ำท่วมใหญ่ในแอฟริกาตะวันออก ไม่ใช่เหตุจากเอลนีโญ
เป็นการรายงานจากสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ในวันนี้ (25 พฤษภาคม 2567) ว่ากลุ่มนักวิทยาศาสตร์รายงานว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญไม่มีอิทธิพลใด ๆ ต่อเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในแอฟริกาต ะวันออก ที่คร่าชีวิตผู้คนหลายร้อยรายในปีนี้ โดยฝนตกหนักในเคนยา, แทนซาเนีย และประเทศใกล้เคียงอีกหลายแห่ง คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 500 ราย ส่งผลให้ประชาชนหลายแสนคนต้องพลัดถิ่น เนื่องจากน้ำท่วมในช่วงฤดูมรสุมเมื่อเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้ทำลายบ้านเรือนและถนนสายต่างๆไปมาก แต่ในปีนี้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ฝนรุนแรงขึ้นเนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความร้อนที่เพิ่มขึ้น ที่นำไปสู่ความแห้งแล้งและฝนตกหนักหนักในบางพื้นที่ แต่ผงของการศึกษา นักวิจัยไม่พบหลักฐานใด ๆ ที่แสดงให้เห็นว่า เอลนีโญหรือไดโพลในมหาสมุทรอินเดีย มีอิทธิพลต่อฝนตกหนักในปีนี้” โดยพวกเขาได้พัฒนาวิธีการตรวจสอบ เพื่อทราบบทบาทของภาวะโลกร้อน ในเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วอย่างรวดเร็ว ผลการศึกษาครั้งนี้ กระตุ้นรัฐบาลในภูมิภาค ให้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและปกป้องระบบนิเวศ เพื่อช่วยให้สิ่งมีชีวิตและประชาชนสามารถรับมือกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น จากภัยพิบัติทางสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเมือง ซึ่งมีประชากรอาศัยอย่างหนาแน่น และแอฟริกาตะวันออกและจะงอยแอฟริกา เป็นภูมิภาคซึ่งเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุด แม้มีสถิติการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียงเศษเสี้ยวของทั้งโลกก็ตาม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 300 ราย จากฝนตกและน้ำท่วมในเอธิโอเปีย เคนยา และโซมาเลีย เมื่อปลายปี 2566 หลังพยายามฟื้นตัวจากภัยแล้งที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษ ซึ่งส่งผลให้ผู้คนหลายล้านคนอดอยากและสร้างความเสียหายไปทั่วทั้งทวีป